EDS แคมป์ที่พักของสายลับหน้าใหม่
ยินดีต้อนรับเข้าสู่EDS แคมป์ที่พักของสายลับหน้าใหม่ สถานที่รวบรวมบุคคลหน้าแปลก เอ้ย แปลกหน้าที่รักการผจญภัย อยากรู้อยากเห็น และสนุกไปกับแชทกับผู้คนมากมาย ลองสมัครแล้วมาเป็นสมาชิกด้วยกันสิ ^ ^

Join the forum, it's quick and easy

EDS แคมป์ที่พักของสายลับหน้าใหม่
ยินดีต้อนรับเข้าสู่EDS แคมป์ที่พักของสายลับหน้าใหม่ สถานที่รวบรวมบุคคลหน้าแปลก เอ้ย แปลกหน้าที่รักการผจญภัย อยากรู้อยากเห็น และสนุกไปกับแชทกับผู้คนมากมาย ลองสมัครแล้วมาเป็นสมาชิกด้วยกันสิ ^ ^
EDS แคมป์ที่พักของสายลับหน้าใหม่
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

Go down
/Charcoal/
/Charcoal/
ผู้รวบรวมความจริง
ผู้รวบรวมความจริง
จำนวนข้อความ : 2222
ชื่อเสียง&น้ำใจ ชื่อเสียง&น้ำใจ : 171
วันเกิด : 02/03/1920

บาดแผลกระสุนปืนและวัตถุระเบิด Empty บาดแผลกระสุนปืนและวัตถุระเบิด

Fri Oct 07, 2011 12:59 am
บาดแผลกระสุนปืน
บาดแผลกระสุนปืนเป็นบาดแผลที่มีลักษณะเดียวกับถูกของแข็งไม่มีคม หรืออาจจะมีลักษณะถูกของแข็งมีคมก็ได้ขึ้นอยู่กับสภาพของหัวกระสุนที่กระทบกับผิวหนังของร่างกาย
โดยทั่วไป หัวกระสุนปืนที่ไม่ได้เปลี่ยนรูปร่างจะมีลักษณะหัวกลมมนไม่มีคม แต่สามารถทะลุทะลวงเข้าร่างกายด้วยความแรงของดินปืนที่ดันหัวกระสุนปืนออกมา ฉะนั้นบาดแผลทางเข้าของกระสุนปืนจึงมีบาดแผลถลอกอยู่รอบรูทางเข้า(abraded rim) หรืออาจจะมีช้ำด้วย แต่จะไม่มี สะพานเนื้อเยื่อ
ในกรณีที่หัวกระสุนปืนเปลี่ยนรูปร่างไป เช่นกระทบกระแทกกับฝาผนังหรือสิ่งอื่นมาก่อนที่จะเข้าร่างกาย หัวกระสุนปืนอาจจะบี้แบนเปลี่ยนรูปร่างไปเกิดมีคมขึ้นส่วนหนึ่ง และเมื่อส่วนนั้นเป็นส่วนนำในการวิ่งเข้าสู่ร่างกายบาดแผลที่เกิดขึ้นจะเป็นบาดแผลที่ไม่มีขอบถลอก เหมือนถูกของแข็งมีคม
เคยมีผู้ป่วยถูกกระสุนปืนที่หน้าท้อง แต่แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นบาดแผลถูกแทง แพทย์พยายามผ่าตัดเพื่อรักษา แต่ต่อมาผู้ป่วยเสียชีวิตจากเสียเลือดมาก ผ่าศพพบมา หัวกระสุนฝังที่กล้ามเนื้อหลังมีลักษณะบี้แบนมีคมจากการกระทบผนังบ้านก่อน
ชนิดของปืน
ปืนอาจแบ่งออกเป็นสองจำพวก คือ
1. ปืนลำกล้องเกลียว ภายในลำกล้องของปืนชนิดนี้จะทำเป็นร่องให้หัวกระสุนถูกรีดให้หมุนไปตามเกลียวของลำกล้อง ซึ่งจะทำให้หัวกระสุนมีอำนาจในการทะลุทะลวงได้ดีกว่า และเมื่อกระทบถูกสิ่งกีดขวางจะแฉลบหรือหักเหไปได้มาก
เกลียวลำกล้องจะถูกออกแบบมาให้หมุนทวนเข็มนาฬิกา หรือ ตามเข็มนาฬิกา ก็ได้แล้วแต่ผู้ผลิต การที่หัวกระสุนถูกรีดไปตามเกลียวลำกล้องเช่นนี้ ทำให้ด้านข้างของ หัวกระสุนเสียดสีกับเกลียวลำกล้องเกิดรอยขูดขีดที่สามารถใช้เปรียบเทียบได้ว่าน่าจะมาจากปืนกระบอกใด
1.1 ปืนสั้น (hand gun) มี 2 ชนิด
1.1.1.ปืนลูกโม่(revolver)
1.1.2.ปืนพกกึ่งอัตโนมัติ(automatic pistal)
1.2 ปืนยาว(rifle)
2. ปืนลำกล้องเรียบ(shotgun)(ปืนลูกซอง)
ปืนลำกล้องเรียบหรือปืนลูกซอง ภายในลำกล้องไม่มีเกลียวเป็นโลหะเรียบ ฉะนั้นกระสุนจะพุ่งออกจากลำกล้องตรงๆ เมื่อกระแทกกับสิ่งกีดขวางจะมีอำนาจทะลุทะลวงน้อยกว่า และหักเห หรือแฉลบได้น้อยกว่าปืนลำกล้องเกลียว
ปืนลำกล้องเรียบมีทั้งชนิดลำกล้องยาว ลำกล้องสั้น และหัวกระสุน จะมีได้ตั้งแต่นัดเดียวถึงเป็นร้อยก็ได้
กลไกการทำงานของปืนลูกโม่
ปืนลูกโม่สามารถยิงได้ทั้งที่ขึ้นนกก่อน(single action)หรือไม่ขึ้นนก(double action) การขึ้นนกจะหมุนลูกโม่นำกระสุนลูกใหม่มาเตรียมพร้อมในรังเพลิง เมื่อเหนี่ยวไก นกจะสับลงมาที่ท้ายปลอกกระสุน การยิงลักษณะนี้จะเบาและมีความแม่นยำกว่าการเหนี่ยวไกโดยไม่ขึ้นนก
ร่องรอยที่นกสับลงที่ท้ายกระสุนปืนก็มีลักษณะแตกต่างกันไปของปืนแต่ละกระบอก การตรวจรอยสับของนกปืนจึงอาจสามารถเปรียบเทียบหาอาวุธที่ใช้ยิงได้
ส่วนการเหนี่ยวไกโดยไม่ขึ้นนกก่อนนั้นจังหวะแรกของการเหนี่ยวไกจะเป็นการขึ้นนกและหมุนลูกโม่จังหวะที่สองจึงจะเป็นการสับไก
ส่วนการหมุนของลูกโม่ปืนนั้นจะหมุนตามหรือทวนเข็มนาฬิกาก็ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตเช่นกัน ถ้าลูกโม่ปืนไม่หมุน นกจะไม่สามารถถูกง้างได้ มีผู้ชำนาญอาวุธปืนเคยสอนวิธีป้องกันตัวในกรณีที่จวนตัวโดยให้จับกำลงไปที่ลูกโม่ปืนไม่ให้หมุนการเหนี่ยวไกก็จะทำไม่ได้

กลไกการทำงานของปืนพกกึ่งอัตโนมัติ(automatic pistal)
ปืนพกกึ่งอัตโนมัติไม่มีลูกโม่ แต่กระสุนจะถูกจัดเรียงไว้ในตลับ (magazine) ซึ่งจะส่งลูกปืนเข้าสู่รังเพลิงหลังการยิง และปลอกกระสุนปืนที่ยิงแล้วต้องถูกผลักดันออกไปนอกรังเพลิงทุกครั้งหลังการยิง ซึ่งการทำการคัดปลอกกระสุนและส่งกระสุนปืนลูกต่อไปเข้าสู่รังเพลิงนี้จะเป็นไปโดยอัตโนมัติ และสามารถยิงต่อไปได้แต่ต้องเหนี่ยวไกซ้ำ ยังไม่มีผู้ผลิตปืนพกกึ่งอัตโนมัติให้เป็นอัตโนมัติเต็มตัวคือเหนี่ยวไกครั้งเดียวสามารถปล่อยกระสุนต่อเนื่องจนหมดตลับ การคัดปลอกกระสุนโดยการเกี่ยวและดีดออกไปนี้จะ ทำให้เกิดร่องรอยบนปลอกกระสุนสามารถตรวจหาลำกล้องปืนนั้นได้ด้วย
แต่ในการยิงนัดแรก ผู้ใช้ต้องขึ้นลำโดยเลื่อนครอบลำกล้องไปด้านหลังเพื่อให้กระสุนปืนลูกแรกเข้าไปอยู่ในรังเพลิงและเป็นการขึ้นนกไปด้วย เมื่อกระสุนอยู่ในรังเพลิงแล้วก็สามารถยิงและก็จะมีการคัดปลอกกระสุน ส่งกระสุนเข้ารังเพลิงดังกล่าวในวรรคก่อน
เมื่อขึ้นลำในนัดแรกแล้วผู้ใช้อาวุธอาจจะลดนกโดยไม่ให้มีการกระแทกกับท้ายปลอกกระสุน ทำให้พร้อมที่จะยิงได้โดยไม่ต้องขึ้นลำอีกและการยิงก็สามารถทำแบบขึ้นนกก่อน(single action)และไม่ขึ้นนกก่อน (double action) ก็ได้
กลไกการทำงานของปืนยาว(rifle)
เป็นปืนลำกล้องมีเกลียวที่มีลำกล้องยาว มีชนิดต่างๆมากมาย ส่วนมากใช้ในการล่าสัตว์และการทำสงคราม มีทั้งยิงทีละนัด หรือยิงอัตโนมัติเต็มตัว หรือกึ่งอัตโนมัติ บรรจุกระสุนที่ละนัดหรือบรรจุเป็นตลับหรือบรรจุเป็นสายยาวไม่สิ้นสุดก็ได้
เป็นปืนที่มีอำนาจทะลุทะลวงสูง มีความเร็วของหัวกระสุนปืนสูง มีความแม่นยำสูง สามารถยิงในระยะทางไกลกว่าปืนสั้นมาก แต่เนื่องจากมีลำกล้องยาวจึงไม่สะดวกในการพกพา ไม่สะดวกต่อการใช้ปราบปรามในเมือง

ปืนลูกซอง(shotgun)
เป็นปืนสั้นหรือปืนยาวก็ตามที่มีลำกล้องเรียบ หัวกระสุนจะถูกดันให้วิ่งออกมาตรงๆจากลำกล้อง ฉะนั้นความแรงและอำนาจทะลุทะลวงจะน้อยกว่าจากลำกล้องเกลียว และต้องมีหมอนรองหัวกระสุนที่จะผลักให้กระสุนทั้งกลุ่มถูกดันออกไปพร้อมๆกัน
การบรรจุกระสุนของปืนลูกซองมักต้องบรรจุทีละนัด อาจจะมีหลายนัดใส่ไว้ในปืนได้ แต่การยิงต้องขึ้นลำให้กระสุนเข้ารังเพลิงทุกนัด ปืนลูกซองอัตโนมัติก็มี
เนื่องจากอำนาจที่ด้อยกว่าปืนลำกล้องเกลียวนี้ ทำให้ผู้ผลิตปืนลูกซองพยายามทำลูกกระสุนปืนลูกซองให้มีดินดำมาก ทำให้สามารถเพิ่มความเร็วและแรงของกระสุนปืน และเนื่องจากกระสุนแต่ละนัดมีหัวกระสุนจำนวนมากและจะแผ่กระจายออกเมื่อออกจากปากกระบอกปืนทำให้สามารถหวังผลในการก่อให้เกิดการบาดเจ็บได้มาก
นอกจากนั้นยังมีการทำให้รูกระบอกปืนแคบลงทางด้านปากกระบอกเพื่อบีบให้กลุ่มกระสุนรวมตัวกันหนาแน่นขึ้นและมีอำนาจการทำลายเพิ่มขึ้นด้วยเรียกว่าโช้คปืน ในปัจจุบันปืนลูกซองมาตรฐานกลับมีระยะยิงหวังผลได้มากกว่าปืนสั้นธรรมดาด้วยซ้ำไป
ในประเทศไทยมีผู้ผลิตปืนลูกซองสั้นใช้กันเองซึ่งเป็นการผลิตกฎหมาย และใช้กระสุนของต่างประเทศ ซึ่งเป็นอันตรายมากต่อผู้ใช้เองเพราะกระสุนปืนลูกซองจะใส่ดิน ดำมาก และตัวปลอกกระสุนเองไม่แข็งแรงมากนักตัวลำกล้องจึงต้องแข็งแรงมากพอที่จะป้องกันการระเบิด
ชนิดของกระสุนปืน
กระสุนปืนมีส่วนประกอบหลัก คือ ปลอกกระสุนปืน หัวกระสุน ดินปืนหรือดินดำ และแก้ปปืน กระสุนปืนลูกโม่กับกึ่งอัตโนมัติคล้ายกันมากและขนาดใกล้เคียงกัน ที่ต่างกันคือบริเวณท้ายปลอกกระสุนปืนของปืนกึ่งอัตโนมัติจะหยักเล็กน้อยเพื่อการคัดปลอกกระสุน ส่วนปืนลูกโม่จะมีขอบเป็นบ่าธรรมดาเพื่อกันไม่ให้ปลอกกระสุนตกออกไปนอกรังเพลิง นอกจากนั้นหัวกระสุนปืนกึ่งอัตโนมัติ อาจมีเปลือกหุ้มด้วยทองแดงหรือทองเหลือง เนื่องจากการที่ต้องถูกดันเข้ารังเพลิงโดยใช้แรงของสปริง ถ้าหัวกระสุนเป็นตะกั่วซึ่งอ่อนกว่า อาจทำให้การ”ไหล”ของลูกปืนเข้ารังเพลิงไม่สะดวก เกิดการขัดลำกล้องได้
ลูกกระสุนปืนลูกซองมักทำเป็นรูปทรงกระบอกมีขนาดใหญ่ ปลอกกระสุนอาจทำด้วยไฟเบอร์หรือพลาสติกบางอย่าง และมีหมอนรองกระสุน หมอนรองกระสุนอาจจะเป็นไฟเบอร์บางอย่างหรือพลาสติกก็ได้เช่นเดียวกัน บางครั้งในการยิงระยะใกล้หมอนรองกระสุนก็อาจเข้าแผลด้วย เช่น ระยะต่ำกว่าหนึ่งเมตรลงมา กระสุนปืนลูกซองมักมีเส้น ผ่าศูนย์กลางที่ฐานใหญ่ เช่นอาจจะถึง 2 เซนติเมตรที่ฐานปลอกกระสุนปืนลูกซองมีบ่าธรรมดา การคัดปลอกกระสุนกับการนำกระสุนลูกใหม่เข้ารังเพลิงจึงต้องทำการบริหาร ลูกเลื่อนทุกครั้ง
หัวกระสุนปืนที่เข้าสู่ร่างกายจะประกอบด้วยตะกั่วเป็นส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นกระสุนปืนลูกโม่ ปืนกึ่งอัตโนมัติ หรือปืนลูกซอง และตะกั่วที่เป็นหัวลูกปืนนั้นจะ"ละลาย"เข้าสู่กระแสโลหิตทำให้เกิดเป็นพิษต่อร่างกาย โดยเฉพาะถ้าเข้าในตำแหน่งที่ทำให้ละลายง่าย(คือตรงบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวมาก หรือใกล้บริเวณที่มีน้ำในร่างกาย) มีรายงานการเสียชีวิตจากพิษสารตะกั่วจากหัวกระสุนปืนมาแล้ว
สำหรับปืนลูกโม่และกึ่งอัตโนมัติ มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของหัวกระสุน ใช้ผสมโลหะอื่น หรือกระทั่งใช้วัสดุอื่นๆ เช่น Taflon ซึ่งอาจทำให้กระสุนลื่นไหลเป็นพิเศษ อาจจะไม่พบลายขูดบนหัวกระสุนก็ได้ หรืออาจจะทำเปลือกหุ้มหัวตะกั่วอีกชั้นหนึ่ง ดังกล่าวมาแล้ว ซึ่งสามารถทำให้เพิ่มประสิทธิภาพหรือประโยชน์ใช้งานด้านหนึ่งด้านใด โดยเฉพาะ
ปืนลูกซองอาจทำเป็นโดด 2 ลูก ทำให้คิดว่าถูกยิงโดยกระสุนสองนัด แพทย์ผู้ตรวจจำเป็นต้องมีความระมัดระวังในการให้ความเห็น โดยจะต้องไม่ยืนยันว่าต้องเป็นอย่างนี้อย่างนั้นเพียงทางเดียว โอกาสที่จะมีหัวกระสุนปืนแบบแปลกๆยังมีอีกมาก
บาดแผลกระสุนปืน
ความรุนแรงในการเกิดแผล ขึ้นอยู่กับ น้ำหนัก และความเร็วของหัวกระสุนปืน ตามหลักกลศาสตร์ โดยทั่วไป กระสุนปืนสั้นจะถูกสร้างให้มีความเร็วที่ปากกระบอกปืนประมาณ 800 - 900ฟุต/วินาที ในขณะที่ปืนไรเฟิลอาจจะมีความเร็วถึง 3,000 ฟุต/วินาที เช่นปืน M16เ ป็นต้น
แรงผลักดันที่เกิดจากการระเบิดของดินดำจะมีประมาณ 50,000 - 70,000 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ที่ในรังเพลิง
การตรวจบาดแผลกระสุนปืนต้องให้ทราบถึง
1.ทิศทางของกระสุนปืนในร่างกาย
2.ระยะของการยิง
การจะทราบทิศทางหรือระยะทางได้ ต้องทราบเสียก่อนว่าแผลใดเป็นแผลทางเข้าแผลใดเป็นแผลทางออกของหัวกระสุนปืน


1.บาดแผลทางเข้ากระสุนปืน (entrance, entry wound)
ดังกล่าวแล้วว่าหัวกระสุนปืนจะมีลักษณะมนและไม่มีคม เมื่อกระสุนดันเข้าสู่ร่างกายนั้นตัวหัวกระสุนจะดันให้ผิวหนังหายไปเป็นรูปกลมตามลักษณะหน้าตัดของหัวกระสุนในขณะเดียวกันขอบกระสุนจะเสียดสีกับผิวหนังรอบรูทางเข้าเกิดเป็นแผลถลอกเล็กๆรอบรูทางเข้า(ภาพที่5)ของกระสุนปืน ฉะนั้นลักษณะที่สำคัญของการเป็นแผลทางเข้าของกระสุนปืน
1. เป็นแผลรูค่อนข้างกลม
2. เป็นแผลที่มีขอบถลอก(abraded rim)
3. อาจพบคราบดำของเขม่า(soot)หรือรอยจุดดำของดินปืน(tattooing)รอบบาดแผล ซึ่งข้อนี้เป็นส่วนประกอบเท่านั้น แต่สามารถใช้เป็นเครื่องช่วยบอกระยะยิงได้ (ดูเรื่องระยะยิง ตอนต่อไป)
การวัดเส้นผ่าศูนย์กลางรูทางเข้าไม่ว่าจะวัดเฉพาะรูหรือวัดรวมส่วนถลอกก็ตาม จะไม่ใช้เป็นเครื่องขนาดของกระสุนปืน เคยพบหลายรายที่ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางทางเข้าขนาด0.4ซม.พบหัวกระสุนปืนขนาด 0.9 ซม., 1.1ซม., .357นิ้ว,.44นิ้ว มาแล้วทั้งสิ้น

บาดแผลทางเข้าของกระสุนปืนที่ลักษณะผิดเพี้ยนไปในกรณีต่างๆ
1. เมื่อหัวกระสุนกระทบสิ่งกีดขวางก่อนเข้าสู่ร่างกาย เช่น ทะลุกระจกรถยนต์ ทะลุประตูบ้าน สิ่งที่หัวกระสุนผ่านอาจแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแล้วทิ่มตำเข้าร่างกายใกล้ๆแผล เกิดลักษณะถลอกหรือฉีกขาดเล็กๆรอบแผลอาจมองคล้ายรอยจุดดำของดินปืน(semi tattooing) แต่ขนาดของแผลเล็กเหล่านี้มักไม่สม่ำเสมอและยังอาจพบเศษส่วนของสิ่งที่ผ่านมาติดอยู่ตามร่างกายหรือในบาดแผลทางเข้าก็ได้ เคยมีนิติเวชแพทย์ผ่าศพผู้ตายจากถูกยิงรายหนึ่งซึ่งเป็นเด็กปั๊มน้ำมัน พบเศษชิ้นส่วนของธนบัตรในบาดแผล ซึ่งต่อมาจับผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งใช้ธนบัตรที่ขาดหายไปส่วนหนึ่งที่ร้านค้าไม่ไกลจากปั๊มน้ำมันนัก และชิ้นส่วนเข้ากันได้พอดี
เมื่อหัวกระสุนผ่านสิ่งเหล่านั้นแล้ว ความเร็วจะลดลง ถ้ายิงจากปืนลำกล้องเกลียวการหมุนควงของหัวกระสุนก็ช้าลงและควงกว้างขึ้น รูทางเข้าจะใหญ่กว่าขนาดของหัวกระสุน
นอกจากนั้นในกรณีที่สิ่งที่ขวางอยู่นั้น อยู่ติดกับตัวผู้ตาย สิ่งนั้นอาจจะกระแทกไปบนผิวหนังด้วยทำให้มีการช้ำของเนื้อเยื่อรอบๆบาดแผลได้
สิ่งขวางกั้นที่ใกล้ตัวและพบบ่อยคือส่วนของแขน หรือมือที่พยายามเอามาปิด แผลที่ทะลุจากมือหรือแขนมาเข้าลำตัวอีกครั้ง(re entry)มักจะพบว่ารูเข้าที่ตัวใหญ่กว่ารู เข้าที่แขน รูเข้าที่ตัวมีรอยช้ำรอบรูด้วย
2. เมื่อหัวกระสุนปืนกระทบกับวัตถุอื่นที่แข็งก่อนเข้าร่างกาย(เช่นผนังอิฐ หิน ฯลฯ) จนทำให้หัวกระสุนเปลี่ยนรูปร่างไปเป็นของมีคม หรือเป็นแฉก หรือบุบบู้ ฯลฯ แผลทางเข้าก็จะเปลี่ยนไปตามลักษณะของหัวกระสุนนั้น การดูสถานที่เกิดเหตุจึงต้องสังเกตว่าตามฝาผนังรอบข้างศพมีร่องรอยถูกหัวกระสุนหรือไม่ประกอบด้วย
3. เมื่อถูกยิงระยะจี้ติดผิวหนัง (tight contact) และใต้ผิวหนังส่วนนั้นมีกระดูกรองรับ เช่น ศีรษะ ซึ่งการยิงในลักษณะนี้ ก๊าซที่เกิดจากการระเบิดของดินปืน จะพุ่งเข้าไปภายในบาดแผลเมื่อกระทบกระดูกไม่สามารถผ่านไปได้ จะสะท้อนกลับมาที่ผิวหนังอีกครั้งหนึ่ง ดันให้ผิวหนังฉีกขาดออกเป็นหลายแฉก(แต่ถ้านำผิวหนังส่วนที่ฉีกขาดมากระกบติดกันก็ยังจะพบว่ามีรูอยู่) และผิวหนังยังอาจจะกระแทกปากกระบอกปืนที่ยังจ่ออยู่ให้เห็นแผลถลอกของปากกระบอกปืนติดอยู่ด้วย และสิ่งที่ออกมาจากปากกระบอกปืนทั้งหมดจะเข้าไปในแผลด้วย เช่น คราบดำของเขม่า จุดดินปืนทั้งหมด โดยอาจจะพบติดอยู่ที่กระดูกที่รองรับ
4. บางครั้งหัวกระสุนถูกใส่กลับข้าง โดยนำส่วนที่กลมมนกลับเข้าด้านใน นำส่วนฐานของหัวกระสุนออกมาเป็นส่วนนำ อาจจะทำให้แผลไม่เป็นรูกลมได้
2.แผลทางออกของกระสุนปืน(exit wound)
แผลทางออกของกระสุนปืนจะมีลักษณะใดก็ได้
1. เป็นรูกลม ถ้ากระสุนปืนผ่านร่างกายโดยไม่กระทบกับกระดูกหรือของแข็งใดก็อาจจะคงรูปร่างเดิมและทะลวงออกจากร่างกายทำให้แผลที่ออกเกิดเป็นรูค่อนข้างกลมและมักจะใหญ่กว่าทางเข้าเนื่องจากการควงตัวช้าลง(ในกรณีที่ยิงจากปืนลำกล้องเกลียว) แต่จะไม่พบขอบถลอกรอบแผล
2. เป็นรูปอื่นคล้ายถูกของแข็งมีคม เนื่องจากการที่หัวกระสุนมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างไปเป็นรูปต่างๆจากการที่กระ แทกกระดูก
3. แผลทางออกอาจจะมีมากกว่าหนึ่งแผลได้ เนื่องจากการที่หัวกระสุนแตกออกหรือกระทบกับกระดูกทำให้กระดูก แตกออกเป็นหลายชิ้นทะลุออกไป
4. บางครั้งพบแผลทางออกที่เกิดมีถลอกหรือช้ำรอบแผลได้ ในกรณีนี้ถือว่าผิดปกติและอาจจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อผิวหนังส่วนที่หัวกระสุนออกอยู่แนบติดกับของแข็งทำให้แรงที่หัวกระสุนดันผิวหนังให้กระแทกกับของแข็งนั้นเกิดเป็นแผลช้ำและถลอกได้
กรณีที่หัวกระสุนผ่านกระดูกจะสามารถบอกได้ว่าผ่านจากด้านไหนไปด้านไหน เนื่องจากกระดูกที่เป็นทางเข้าขอบกระดูกจะเรียบแต่ทางออกขอบกระดูกจะวิ่นออกไป(ภาพที่11)และพบเห็นได้ง่ายในกะโหลกศีรษะ
ในกรณีกระสุนเจาะศีรษะหลายนัด อาจจะบอกได้ว่านัดไหนเข้าศีรษะก่อน เพราะแนวการแตกของกะโหลกที่เกิดทีหลังจะไม่ผ่านแนวแตกที่มีอยู่ก่อนแล้ว


หลังจากการผ่าศพและทราบบาดแผลทางเข้าทางออกแล้ว สามารถบอกทิศทางการเดินทางของหัวกระสุนทุกนัดในร่างกายได้ และแพทย์จะรายงานเป็นสามมิติ โดยสมมุติว่าผู้ตายอยู่ในท่ายืน
1. จากด้านหน้าไปด้านหลังหรือจากด้านหลังไปด้านหน้า
2. จากด้านบนลงด้านล่างหรือจากด้านล่างขึ้นด้านบน
3. จากด้านซ้ายไปด้านขวาหรือจากด้านขวาไปด้านซ้าย
การบอกทิศทางนี้ต้องคำนึงถึงการแฉลบ(ricochet)ของหัวกระสุนในร่างกายด้วย เพราะหัวกระสุนเมื่อกระทบกระ ดูกสามารถแฉลบเปลี่ยนทิศทางไป เช่นถูกยิงด้านข้างขวา หัวกระสุนกระทบถูก กระดูกสันหลัง แฉลบขึ้นด้านบนพบหัวกระสุนในช่องอกขวา
การตั้งสมมุติฐานว่าผู้ตายอยู่ในท่ายืนขณะถูกยิงอาจจะไม่ตรงกับสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นก็ได้
บางครั้งหัวกระสุนปืนทะลุเข้าไปในเส้นเลือดแดงใหญ่พอดี ทำให้เลือดดันเอาหัวกระสุนนัดนั้นเคลื่อนไปอยู่ห่างจากจุดทางเข้ามากก็ได้เช่น เข้าที่หน้าอกซ้ายทะลุปอดทะลุเข้าเส้นเลือดแดงใหญ่ในช่องอก เมื่อผ่าศพพบว่าหัวกระสุนไปติดอยู่ที่ในเส้นเลือดแดงใหญ่ที่แยกออกไปเลี้ยงขาทั้งสองข้าง
เมื่อได้หัวกระสุนจากร่างกายแล้วต้องทำตำหนิไว้ในส่วนที่ไม่รบกวนการตรวจหัวกระสุน เพื่อให้แน่ใจว่าหลังจากผ่านการตรวจเวียนกันไปหลายแห่งแล้ว ยังใช่หัวกระสุนที่เอาออกมาจากศพจริง

3.ระยะยิง(range of fire)
ระยะยิงหมายถึงระยะจากปากกระบอกปืนถึงบาดแผลทางเข้า
ในการยิงแต่ละครั้ง สิ่งที่ออกจากปากกระบอกปืนนอกจากหัวกระสุนปืนแล้วยังมีกลุ่มของเขม่าดินปืน หรือควันปืน (soot) ประกายดินปืนที่กำลังเผาไหม้ (unburnt particle) และความร้อน ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้จะช่วยบอกระยะห่างระหว่างปากกระบอกปืนกับผิวหนังได้
เขม่าปืนเป็นควันประกอบด้วยผงถ่านที่เผาไหม้แล้ว จะเบา และพุ่งไปได้ไม่ไกลกว่า 6 นิ้วฟุต เมื่อสัมผัสผิวหนังจะเปื้อนอยู่บนผิวหนังเป็นคราบดำๆ ซึ่งถ้าใช้น้ำล้างจะถูกล้างออกได้
ส่วนดินปืนที่กำลังเผาไหม้นั้นเป็นสะเก็ดไฟ สามารถพุ่งไปได้กว่าฟุตครึ่ง และเมื่อสะเก็ดไฟกระทบผิวหนังจะเกิดเป็นแผลถลอกเล็กๆบนผิวหนังจึงล้างไม่ออกและจะติด ที่ผิวหนังจนกว่าจะเน่าสลายไป และพบว่าระยะทางที่ใกล้ที่สุดที่ไม่พบจุดดินปืนที่ระยะ 1.5 ฟุต
ฉะนั้น ถ้าที่บาดแผลทางเข้าพบเขม่าปืนอยู่ และในมีรอยจุดดินปืนค่อนข้างหนาแน่น ระยะยิงอยู่ที่ไม่เกิน 6 นิ้วฟุต ถ้าไม่พบเขม่าพบแต่รอยจุดดินปืนระยะยิงอยู่ประมาณ 6 - 18 นิ้ว แต่ถ้าพบมีบาดแผลทางเข้าอย่างเดียวแสดงว่าน่าจะยิงมาจากระยะเกิน18นิ้ว ยกเว้นแต่ผู้ยิงเจตนานำวัสดุใดมาขวางกั้นเขม่าและดินปืนไม่ให้เปื้อนผิวหนัง
การยิงระยะจี้ติดตามที่กล่าวแล้วเขม่าและดินปืนจะอัดกันเข้าไปในบาดแผลทั้งหมดจึงไม่พบคราบเขม่าหรืดรอยจุดดินปืนบนผิวหนังด้วย นอกจากนั้นยังพบว่าที่เนื้อเยื่อ ด้านในมักมีสีแดงสด กว่าส่วนอื่นเพราะ คาร์บอนโมน๊อกไซด์ที่เกิดขึ้นในการเผาไหม้ของดินปืนเข้าไปรวมกับเลือดในบริเวณดังกล่าว และอาจตัดเนื้อเยื่อส่วนนั้นหาปริมาณ คาร์บอนโมน๊อกไซด์ได้
มีผู้ศึกษาว่าในกรณียิงระยะใกล้คือ 2 - 3 นิ้วฟุตนั้น ถ้าบริเวณนั้นมีขนอยู่ อาจจะพบว่าขนมีการหงิกงอจากความร้อนได้ แต่ถ้าเป็นเส้นผม จะสังเกตได้ยากกว่า

ระยะยิงของปืนลูกซอง
ระยะยิงของปืนลูกซองมีความแตกต่างกันมากในแต่ละกระบอก แต่ละรุ่น ฉะนั้นการจะบอกระยะยิงที่แน่นอนจะต้องได้ปืนกระบอกนั้นมายิงทดสอบเท่านั้น
อาจจะประมาณระยะยิงของปืนลูกซองดังนี้
ระยะใกล้มากคือระยะต่ำกว่า 1 เมตร รูทางเข้าจะเป็นโพรงขนาดใกล้เคียงกับปากกระบอกปืน และถ้าต่ำกว่า 6นิ้วจะพบเขม่าและจุดดินปืนเช่นกัน ส่วนระยะที่พบจุดดินปืนอย่างเดียวมีความแตกต่างกันมากดังกล่าวและอาจจะถึงระยะเกือบ1เมตรก็ได้
ระยะประมาณ1 เมตร แผลทางเข้ายังเป็นรูเดียว แต่ขอบอาจะเริ่มเป็นหยักเหมือนขนมคุ้กกี้
เกินจากระยะ 1 เมตร แผลจะเริ่มกระจายออกให้มีหลายแผล
เมื่อพบกลุ่มทางเข้าของกระสุนปืนสามารถวัดเส้นผ่าศูนย์กลางของกลุ่ม เพื่อเปรียบเทียบเป็นระยะทางได้โดยประมาณ โดยวัดเส้นผ่าศูนย์กลางของกลุ่มได้หน่วยเป็นนิ้วจะได้ระยะทางเป็นหลา เช่นกลุ่มทางเข้าของกระสุนวัดเส้นผ่าศูนย์กลางได้ 6 นิ้ว ระยะยิงจะประมาณ 6 หลา(หรือศก.เป็นซม.หาร 3 ได้ระยะทางเป็นเมตร)
ในการทดลองของ พลตำรวจตรีทัศนะและพวก ได้ทดสอบการยิงในปืนลูกซองที่ประดิษฐ์เองในประเทศพบว่ากลุ่มกระสุนกระจายออกมากกว่าปืนลูกซองมาตรฐานมากโดยได้สูตรดังนี้ คือเส้นผ่าศูนย์กลางเป็นนิ้วหาร2ได้ระยะทางเป็นเมตร (ถ้าศก.6 นิ้วระยะยิงอยู่ที่ 3 เมตรเท่านั้น)
ศพที่สงสัยว่าถูกกระสุนปืนควรได้รับการ x-rays ทุกราย เพื่อเป็นแนวทางว่ามีสิ่งแปลกปลอมใดอยู่ในร่างกายหรือไม่เป็นจำนวนเท่าใดก่อนการผ่าศพเพื่อเป็นแนวทางของการผ่าหากระสุนปืน
แต่จะใช้การกระจายของหัวกระสุนปืนลูกซองในร่างกายเป็นเครื่องหาระยะยิงไม่ได้ เพราะการกระจายของกลุ่มกระสุนในร่างกายจะมากกว่าความเป็นจริงมาก

การประเมินผลการตรวจบาดแผลกระสุนปืน
จำนวนบาดแผล ทิศทางการยิง และระยะยิงอาจจะช่วยการแปลผลเกี่ยวกับพฤติการณ์การตายเช่น
1. ถ้าเป็นอุบัติเหตุ บาดแผลกระสุนปืนมักจะมีนัดเดียว
2. การฆ่าตัวตายจะยิงที่จุดตาย 2 ครั้งไม่ได้ เช่น ยิงเข้าสมองทั้ง 2 นัด
3. การฆ่าตัวตายวิถีกระสุนมักจะหน้าไปหลัง และวิถีกระสุนจะไม่ตรงแต่เอียงซ้ายขวาหรือเฉียงขึ้นลงเสมอ
4. การยิงตนเองให้เกินระยะ 1.5 ฟุตได้ยาก ยกเว้นปืนขนาดเล็กมาก
5. การยิงจนหมดแม็กกาซีนจนขึ้นแม็กฯใหม่ (reloaded) แสดงเจตนาในการฆ่า
6. บางครั้งอาจจะพบบาดแผลฆ่าตัวตายยิงทะลุเสื้อผ้า
7. การแตกของกะโหลกศีรษะอาจจะบอกได้ว่านัดไหนยิงก่อนยิงหลัง
8.ในสมัยก่อน สอนว่าการยิงตัวตาย กระสุนตัดจุดศูนย์กลางการเคลื่อนไหว(Motor area)ในสมองทันที ทำให้เกิดคาดาเวอริค สปัสซั่ม(Cadaveric spasm)กำปืนอยู่ในมือนั้น ในปัจจุบัน นิติพยาธิแพทย์ไม่เชื่อเช่นนั้น เพราะจากการชันสูตรพลิกศพ ในรายยิงตัวตาย(ที่สมอง) เกือบไม่พบคาดาเวอริค สปัสซั่มเลย ปัจจุบันคงเชื่อว่า คาดาเวอริคสปัสซั่มเกิดจากการใช้กล้ามเนื้อมากก่อนตายเพียงอย่างเดียว
9.การยิงตัวตายมีโอกาสพบปืนยังคงอยู่ในมือศพ(โดยที่ไม่ใช่การเกิดคาดาเวอริคสปัสซั่ม) ประมาณ 25%(เป็นการยิงตัวตายในท่านั่งหรือนอน 76%)และ 69%ปืนยังติดอยู่บนร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่ง
การตรวจหาธาตุต่างๆที่ที่เกิดจากการยิง(ตรวจเขม่า) (detection of gun shot residues)
การตรวจหาธาตุหรือสารประกอบต่างๆที่เกิดจากการยิง
1. ตรวจจากบาดแผลทางเข้ากระสุนปืน เช่นอาจจะพบดินปืน แร่พลวง หรือแบเรี่ยมได้ที่ปากแผลหรือในบาดแผลในการยิงระยะใกล้
2. ตรวจจากมือผู้ยิงหรือผู้ต้องสงสัย ซึ่งการระเบิดของกระสุนจะเกิดการกระจายของธาตุและสารประกอบต่างๆเหล่านี้กระจายอยู่บนมือผู้ยิงได้

การตรวจในปัจจุบันนี้ไม่ได้ใช้พาราฟินเทสแล้วเพราะเกิดผลบวกปลอมได้ง่าย วิธีการตรวจที่ยังใช้ตรวจคือ
1. NAA (NEUTRON ACTIVATION ANALYSIS)
ใช้ตรวจหาธาตุแบเรี่ยม(Ba) พลวง(Sb=Stibium=Antimony) และตะกั่ว(Pb) ทำโดยใช้พาราฟินพอกไปในส่วนที่สงสัยแล้วนำไปล้างด้วยกรดไนตริกเจือจาง แล้วนำสาร ที่ได้ไปยิงด้วยอนุภาคนิวตรอน เมื่อสารนั้นจับอนุภาคนิวตรอนไว้และกลายสภาพเป็นสารกัมมันตภาพ ปล่อยรังสีออกมา สามารถเปรียบเทียบกับสารที่มีอยู่สามารถทราบว่า เป็นสารใด
เครื่องมือมีราคาแพง วิธีการยาก และเสียเวลามาก จึงไม่ค่อยนิยมใช้

2. F.A.A.S.(FLAMELESS ATOMIC ABSORPTION)
นำสารที่ได้จากมือหรือที่สงสัยมาเผาไฟ อะตอมของธาตุที่ต่างกันจะดูดแสงในความยาวคลื่นที่จำเพาะ ซึ่งเมื่อตรวจด้วยเครื่องSPECTOPHOTOMETER (เครื่องมือที่ใช้ วัดความถี่ของคลื่นแสง)ก็จะสามารถบอกได้ว่าเป็นสารใด ซึ่งกองพิสูจน์หลักฐาน กรมตำรวจใช้อยู่

3. S.E.M.(SCANING ELECTRON MICROSCOPE)
ใช้ตรวจโดยกล้องจุลทรรศน์อีเล็คตรอน เพื่อตรวจดูผลึกของธาตุนั้นโดยเฉพาะ

4. วิธี SODIUM RHODIZONATE
ทำได้โดยนำผ้าฝ้ายชุบ 1% HCl เช็ดบริเวณที่สงสัย ผึ่งให้แห้ง หยดด้วยน้ำยา SODIUM RHIZONATE แล้วหยดด้วย 5%HCC อีกครั้งหนึ่ง ถ้าพบว่าเป็นสีม่วงเป็นตะกั่ว เป็นสีแดงเป็นแบเรี่ยม แต่วิธีนี้มีความไวต่ำ ตรวจพบเพียง 60%ของที่มีอยู่จริง
การตรวจเขม่าที่มือดังกล่าว กองพิสูจน์หลักฐานพบว่าการพบเขม่าทั้งสองมือมีเปอร์เซ็นต์สูง(จากการติดต่อข้อมูลส่วนตัวกับ ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐาน พลตำรวจตรี อัมพร จารุจินดา)


อันตรายจากระเบิด(Explosion injuries)
ระเบิดอาจจะแบ่งออกเป็นชนิดใหญ่ๆดังนี้
1. ระเบิดสังหาร(hand grenate)
2. ระเบิดเพลิงหรือการระเบิดที่เกิดเป็นเปลวไฟ(MOLOTOV COCKTAIL,หรือกาซต่างๆ)
3. ระเบิดที่ทำให้เกิดอันตรายด้านอื่น เช่น ระเบิดเคมี ระเบิดเชื้อโรค ฯลฯ
4. ระเบิดที่อำนาจทำลายล้างอย่างรุนแรง เช่นระเบิดปรมาณู
โดยทั่วไปอันตรายจากระเบิดจะเกิดจาก แรงดันหรือแรงอัดอากาศ (Air Blast) ความร้อนและเปลวไฟ และสะเก็ดระเบิด

1.อันตรายจากแรงอัดอากาศ
ต่อหู พบ แก้วหูช้ำ คั่งเลือด ทะลุ หรือเกิดอันตรายต่อหูชั้นใน หูอื้อ หรือหูหนวก
ต่อปอด มีเลือดออกในถุงลมปอด อาจถึงตายได้
ต่อทางเดินอาหาร เกิดจุดเลือดออกในทางเดินอาหาร หรือลำไส้แตก
อันตรายต่ออวัยวะอื่นพบน้อย
ถ้ามีการระเบิดในน้ำแรงอัดของน้ำทำอันตรายต่อทางเดินอาหารได้มากกว่าปอด

2.อันตรายจากความร้อนและเปลวไฟ
อันตรายจากความร้อนพบน้อยในกรณีระเบิดสังหาร แต่พบมากในระเบิดเพลิง การระเบิดของก๊าซ ซึ่งความร้อนที่เกิดขึ้นมักเกิดรุนแรงแต่ในช่วงเวลาสั้นๆ ทำอันตราย ต่อร่างกายได้มาก(ดูเรื่องการตายจากความร้อน)

3.อันตรายจากสะเก็ดระเบิด
สะเก็ดระเบิดเกิดจากสิ่งถูกระเบิดดันออกมา อาจจะเป็นเปลือกระเบิดที่หุ้มอยู่ หรือสิ่งอื่นที่ปกคลุมระเบิดเป็นต้น และกระจายไปตามส่วนต่างๆที่ไม่ถูกบัง กลุ่มของบาดแผลระเบิดอาจจะบอกทิศทางหรือระยะห่างจากตัวระเบิดได้(ภาพที่20,21)

4.อันตรายจากสิ่งอื่นที่สร้างไว้ภายในระเบิด เช่นระเบิดสารเคมี ระเบิดเชื้อโรค สารพิษ สารกัมมันตภาพรังสี ฯลฯ

การผ่าศพแพทย์จะต้องเอาชิ้นส่วนสะเก็ดออกมาทั้งหมดหรือให้มากที่สุด เพื่อให้ได้ชิ้นส่วนที่อาจจะเกิดจากสิ่งอื่นที่ขวางกั้นระเบิดและอาจช่วยบอกสถานที่หรือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ในทางการสืบสวนสอบสวน เจ้าพนักงานต้องถามผู้เชี่ยวชาญให้ได้ความว่า
- ส่วนประกอบของระเบิดมีอะไรบ้าง
- ผู้วางระเบิดชำนาญเท่าไร
- เป้าหมายของการวางระเบิดคืออะไร
- เป็นอุบัติเหตุหรือเจตนาก่ออาชญากรรม
- ระเบิดหรือสิ่งที่ประกอบเป็นระเบิดนั้นมีแหล่งผลิตที่ใด
- ตำแหน่งการวางระเบิดอยู่ที่ใด
- ผู้ตายหรือผู้เคราะห์ร้ายคือใคร เป็นเป้าหมายหรือไม่
- ใครน่าจะเป็นผู้ประกอบระเบิด และใครน่าจะเป็นผู้วางระเบิด
- มีการระเบิดในลักษณะใด
การรักษาที่เกิดเหตุควรรักษาให้ไกลกว่าส่วนนอกที่สุดที่พบชิ้นส่วนของสะเก็ดระเบิด โดยเพิ่มระยะอีกครึ่งหนึ่งของรัศมีนั้น เช่นพบชิ้นส่วนสะเก็ดที่ไกลที่สุดจาก จุดระเบิดประมาณ10หลา ระยะการรักษาที่เกิดเหตุควรเป็น 15หลา จากจุดที่ระเบิด

ที่มา http://www.ifm.go.th
Winter
Winter
นักล่าปริศนา
นักล่าปริศนา
จำนวนข้อความ : 678
ชื่อเสียง&น้ำใจ ชื่อเสียง&น้ำใจ : 33
วันเกิด : 10/01/1997

บาดแผลกระสุนปืนและวัตถุระเบิด Empty Re: บาดแผลกระสุนปืนและวัตถุระเบิด

Fri Mar 16, 2012 9:57 am
ขอบคุณจ้า
NaBee
NaBee
ผู้ชนะเกมสิบทิศ
ผู้ชนะเกมสิบทิศ
จำนวนข้อความ : 1169
ชื่อเสียง&น้ำใจ ชื่อเสียง&น้ำใจ : 231
วันเกิด : 11/01/1998
งานอดิเรก งานอดิเรก : ร้องเพลง อ่านหนังสือการ์ตูน เต้น cover วาดรูป แต่งนิยาย(ไม่เคยจบ) ดูหนัง เล่นเกมส์ เที่ยวไปวันๆ

บาดแผลกระสุนปืนและวัตถุระเบิด Empty Re: บาดแผลกระสุนปืนและวัตถุระเบิด

Sat Mar 17, 2012 12:00 pm
ขอบคุณสำหรับข้อมูลจ้าาา Very Happy บาดแผลกระสุนปืนและวัตถุระเบิด Bth_142
avatar
????????
ผู้มาเยือน

บาดแผลกระสุนปืนและวัตถุระเบิด Empty Re: บาดแผลกระสุนปืนและวัตถุระเบิด

Thu Jun 14, 2012 4:21 am
ขอบคุณครับ
/Charcoal/
/Charcoal/
ผู้รวบรวมความจริง
ผู้รวบรวมความจริง
จำนวนข้อความ : 2222
ชื่อเสียง&น้ำใจ ชื่อเสียง&น้ำใจ : 171
วันเกิด : 02/03/1920

บาดแผลกระสุนปืนและวัตถุระเบิด Empty Re: บาดแผลกระสุนปืนและวัตถุระเบิด

Mon Nov 19, 2012 11:02 pm
ตัดคอ
บาดแผลกระสุนปืนและวัตถุระเบิด Tumblr_m93ws3XwZb1r1ep3ao1_500

This dice is not existing.


แก้ไขล่าสุดโดย GodDestroyer เมื่อ Tue Nov 27, 2012 6:44 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง
คิรัวร์
คิรัวร์
นักล่าปริศนา
นักล่าปริศนา
จำนวนข้อความ : 807
ชื่อเสียง&น้ำใจ ชื่อเสียง&น้ำใจ : 59
วันเกิด : 14/01/1992
งานอดิเรก งานอดิเรก : เล่นดนตรี อ่านหนังสือ เล่นคอม เล่นกีฬา

บาดแผลกระสุนปืนและวัตถุระเบิด Empty Re: บาดแผลกระสุนปืนและวัตถุระเบิด

Tue Nov 20, 2012 8:16 pm
ท่ากระโดดทับ
บาดแผลกระสุนปืนและวัตถุระเบิด Tumblr_mc8dn5gdfi1r8v7y3o4_250
This dice is not existing.
Lightdramon
Lightdramon
ผู้รวบรวมความจริง
ผู้รวบรวมความจริง
จำนวนข้อความ : 1674
ชื่อเสียง&น้ำใจ ชื่อเสียง&น้ำใจ : 97
วันเกิด : 01/01/1992
งานอดิเรก งานอดิเรก : ดูอนิเม,ซีรีย์,ฟังเพลง,ดูทีวี,อ่านหนังสือ

บาดแผลกระสุนปืนและวัตถุระเบิด Empty Re: บาดแผลกระสุนปืนและวัตถุระเบิด

Tue Nov 20, 2012 9:20 pm
Electromaster Railgun Cannon!
บาดแผลกระสุนปืนและวัตถุระเบิด Tumblr_m9jeqlsb0c1qzd219o1_500

This dice is not existing.
khaw dissaro
khaw dissaro
ผู้ชนะเกมสิบทิศ
ผู้ชนะเกมสิบทิศ
จำนวนข้อความ : 958
ชื่อเสียง&น้ำใจ ชื่อเสียง&น้ำใจ : 151
วันเกิด : 19/05/2002
งานอดิเรก งานอดิเรก : อ่านการ์ตูนและนวนิยายสืบสวนสอบสวน เล่นคอมพิวเตอร์

บาดแผลกระสุนปืนและวัตถุระเบิด Empty Re: บาดแผลกระสุนปืนและวัตถุระเบิด

Wed Nov 21, 2012 9:37 pm
เอเลี่ยนย่าห์ห์ห์
บาดแผลกระสุนปืนและวัตถุระเบิด Ben_10_ultimate_alien_sunny_gwen_cousin_battle
This dice is not existing.
bobonus
bobonus
นักล่าปริศนา
นักล่าปริศนา
จำนวนข้อความ : 679
ชื่อเสียง&น้ำใจ ชื่อเสียง&น้ำใจ : 71
วันเกิด : 23/01/1995
งานอดิเรก งานอดิเรก : เข้าโรงเรียน

บาดแผลกระสุนปืนและวัตถุระเบิด Empty Re: บาดแผลกระสุนปืนและวัตถุระเบิด

Fri Nov 23, 2012 9:53 pm
บาดแผลกระสุนปืนและวัตถุระเบิด Tumblr_mdwsokfOBx1qmymedo1_500

กระทืบหิมะ จมดวงอาทิตย์
This dice is not existing.
/Charcoal/
/Charcoal/
ผู้รวบรวมความจริง
ผู้รวบรวมความจริง
จำนวนข้อความ : 2222
ชื่อเสียง&น้ำใจ ชื่อเสียง&น้ำใจ : 171
วันเกิด : 02/03/1920

บาดแผลกระสุนปืนและวัตถุระเบิด Empty Re: บาดแผลกระสุนปืนและวัตถุระเบิด

Fri Feb 08, 2013 12:45 pm
บาดแผลกระสุนปืนและวัตถุระเบิด Bth_142

putera
ขึ้นไปข้างบน
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ