- ผู้มาเยือนผู้มาเยือน
เรื่องพื้นๆ
Thu Apr 10, 2014 10:02 pm
เรื่องที่รู้ก็ไม่เสียหาย
- เลือดของคนเราจะแข็งตัวในอุณหภูมิปกติต้องใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที
- ขากรรไกรยังไม่แข็ง แต่ม่านตาริ่มปิดแล้ว ถ้าดูจากอุณหภูมิร่างกายที่ลดลง แสดงว่าเสียชีวิตได้ 40-50 นาที
- ปากกระป๋องเริ่มผุ แต่หลอดไม่มีอะไรผิดปกติ แสดงว่าเป็นโซเดียมไฮดรอกไซด์ ต้องรีบล้างเอาของในปากออกมา (หาอะไรที่เป็นโปรตีนล้าง)
note:การใช้โปรตีน เช่น นม ไข่ขาว ล้างเพื่อให้โปรตีนไปทำปฏิกิริยากับสารพิษ ทำให้โปรตีนนั้นเสียสภาพ denature) ทำให้ตกตะกอนเอาสารพิษนั้นออกมาได้ ทำให้ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
- ปลายเท้าเริ่มแข็ง แสดงว่าตายมาหลายชั่วโมงแล้ว (กว่า 7 ชั่วโมง)
-กรณีที่เสียชีวิตกระทันหันขณะที่ร่างกายมีการออกกำลังกายมากๆ ในกรณีนั้นกล้ามเนื้อจะเครียด และแข็งตัวง่าย ทำให้ศพแข็งตัวเร็วกว่าการตายแบบปกติ (ตายแบบ มุซาชิโบ เบ็งเค)
- ริมฝีปากกับปลายมือปลายเท้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วง มีเส้นเลือดแตกในตา เป็นอาการของการเสียชีวิต เนื่องจากขาดอากาศหายใจ แต่ไม่มี
ทั้งร่องรอยการถูกกัด ไม่มีสภาพของการจมน้ำ หรือแม้แต่ สภาพดิ้นรนทุรนทุราย โอกาสเป็นไปได้จึงมีเพียง ถูกพิษที่ทำให้ระบบประสาท
เป็นอัมพาต หายใจไม่ออก จนตายเป็นพิษที่รุนแรง ที่ทำให้ตายได้ในเวลาสั้นๆ และการที่ศพยังอุ่นอยู่ กับการที่ร่างกายยังไม่มีส่วนใด
แข็งตัวเลย แสดงให้เห็นว่า ศพถูกพบในช่วงเวลาประมาณ 30 นาที หลังการเสียชีวิต
-ปอดมีรูรั่ว (แทงทะลุปอด) ถึงแม้จะสูดลมเข้าไป ปอดก็ไม่ขยายทำให้หายใจไม่ได้ กว่าจะเสียชีวิตก็กินเวลาตั้ง 10-15 นาที ทรมานมากทีเดียว
- ปกติร่างกายคนเราหลังจากเสียชีวิตประมาณ 30 นาที - 2 ชั่วโมง ร่างกายจะเริ่มแข็ง 9-12 ชั่วโมง จะแข็งหมดทั้งตัว หลังจากนั้นไป
30 ชั่วโมง ร่างกายจะแข็งขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขีดสุดแล้วจะเริ่มอ่อนตัวลงจน 70 ชั่วโมง ก็จะกลับเป็นอย่างเดิม
- ถ้าอุณหภูมิรอบๆศพ สูงประมาณ 35 องศา เวลาในการแข็งตัวและอ่อนตัวของศพจะเร็วขึ้นแค่ 24-30 ชั่วโมง ศพก็เริ่มอ่อนตัวลงแล้ว
-อโคนิซิน เป็นพวกที่มีฤทธิ์ทำให้ระบบประสาทเป็นอัมพาต สกัดได้จากใบหรือรากของต้นอโคไนท์ เป็นยาพิษที่ร้ายแรงมาก หากเข้าสู่ร่างกายเพียง 2 มก.จะทำให้อวัยวะภายในถูกทำลายเสียชีวิตในเวลาไม่กี่นาที มันมีอยู่มากตามป่าเขา คนส่วนใหญ่เขาจะเอาส่วนที่เป็นพิษออก เอาที่เหลือไปทำยาโด๊ป
- จิโอโซเดียมซัลเฟต เป็นน้ำยาฟอกขาวที่แพทย์มักใช้ล้างสีของน้ำยาฆ่าเชื้อ เป็นยาล้างสภาพความเป็นพิษของโปแตสเซียมไซยาไนด์ได้อีกด้วย
- ถ้าฝังศพไว้ในดิน ไม่ให้สัมผัสถูกอากาศ อัตราการเน่าเปื่อยจะช้าลงกว่าปกติ 1/8 เท่า เทียบกับในน้ำก็ยังช้ากว่าเท่าตัว
- รอยเลือดของมนุษย์ที่ตกลงพื้น จะมีลักษณะแตกต่างกันตามความสูง ยิ่งสูงวงก็จะยิ่งใหญ่และรัศมีแตกกระจายกว้างมาก
-สารทันนินในน้ำชา ใช้ล้างปากแผลระงับพิษงู เป็นวิธีปฐมพยาบาลคนที่ถูกงูทะเลกัดได้ดีที่สุด คนที่ใช้ปากดูดพิษงูออก ก็ต้องใช้น้ำชา กลั้วพิษงูออกจากปากด้วยเหมือนกัน
- ศพที่ถูกเผา กระดูก กล้ามเนื้อ เอ็น และส่วนต่างๆ ในร่างกายจะเกิดปฏิกิริยากับความร้อนทำให้แข็งตัวและหดตัวเข้า แต่เพราะกล้ามเนื้อที่ใช้
งอแขนขา มีมากกว่าที่ใช้ยึดข้อต่อต่างๆ จึงอยู่ในลักษณะกึ่งๆงอเข้าเหมือนท่าตั้งการ์ดของนักมวย
- ศพเย็นแล้ว คงเสียชีวิตมาประมาณ 1 ชั่วโมง
- ปกติคนเสียชีวิตตัวจะต้องซีด แต่ถ้าริมฝีปากกับเล็บเป็นสีชมพูอมม่วง แสดงว่าตายด้วยโพแทสเซียมไซยาไนด์ เพราะโพแทสเซียมไซยาไนด์
ต่างกับพิษชนิดอื่น ถ้าดื่มเข้าไปจะทำให้การส่งผ่านอิเล็กตรอนในเซลล์ถูกทำลาย เอนไซม์ในกระแสเลือดจะไม่ทำงาน แทนที่ตัวจะซีดจึงกลับ
มีสีเลือด และที่ปากจะมีกลิ่นอัลมอนด์ โพแทสเซียมไซยาไนด์เมื่อแช่แข็งแล้วจะละลายยาก
note:โพแทสเซียมไซยาไนด์ (KCN) ไปรบกวนกระบวนการขนส่งอิเล็กตรอนหรือ electron transport system (ETS) ในกระบวนการสลายอาหาร หรือที่เข้าใจกันว่า กระบวนการหายใจ(แบบใช้ออกซิเจน) ทำให้ไม่สามารถสร้างพลังงาน (ในรูปATP)ให้แก่ร่างกายได้ เอนไซม์และเซลล์ต่างๆ ในร่างกายจึงไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ จึงเป็นสาเหตุให้ถึงแก่ความตายได้(รายละเอียดของกระบวนการขนส่งอิเล็กตรอน ศึกษาในวิชาชีววิทยาตอน ม.ปลาย เองนะถ้าจะให้อธิบายคงยาวน่าดู)
- Tetrodotoxin = พิษปักเป้า ชื่อย่อคือ TTX เป็นพิษที่น่าทึ่งมาก ปริมาณแค่ 0.5 - 1 mg. หรือ ประมาณ 1/200 ของโปแตสเซียมไซยาไนด์
ก็ทำให้คนตายได้ ถ้าเข้าร่างกายทางปาก พิษจะกระจายช้า โอกาสช่วยชีวิตได้มีอยู่มาก แต่ถ้าเข้าสู่ร่างกายทางกระแสเลือดโดยตรง ชั่วเวลา
สั้นๆ ระบบประสาทจะเป็นอัมพาต ระบบหายใจจะหยุดทำงาน แล้วก็ตายในที่สุด
- การปฐมพยาบาลข้อเท้าพลิก เอากรรไกรตัดผ้าขนหนูซิกแซกไปมา จะได้ผ้าพันแผลยาวๆ ก่อนอื่นพันที่ข้อเท้า 2 รอบ แล้วพันจากหลังเท้ามาที่
ฝ่าเท้า แล้วอ้อมกลับไปที่ข้อเท้าอีกที พันซ้ำอย่างนี้ ขยับขึ้นไปเรื่อยๆ สุดท้ายผูกปลายมัดให้แน่น
- การหาวและปวดตามข้อเป็นอาการถอนยาของคนติดยาเสพย์ติด
- Heparin ยาป้องกันเลือดแข็งตัว ปกติแล้วเลือดมักจะแข็งตัวเป็นก้อนในเวลาไม่นานทำให้พกพาไม่สะดวก แต่ถ้าผสม Heparin เข้าไปและ
ใส่ไว้ในถุงที่ปิดมิดชิดเป็นถุงเลือด จะสามารถพกพาได้สบาย
- รูมินอล เมื่อฉีดพ่นใส่รอยเลือด แอคทีฟออกซิเจนในเลือดจะเกิดออกซิเดชั่น สารเรืองแสงก็จะเปล่งแสงสีม่วงฟ้าออกมา
- ริมฝีปากเปลี่ยนเป็นสีม่วง แต่ไม่มีอาการลมหายใจติดขัด แถมยังมีกลิ่นอัลมอลด์ เป็นลักษณะพิเศษของก๊าซกรดไซยาไนด์
- อุณหภูมิร่างกายสูง ผิวหนังแห้ง ไม่มีเหงื่อ รูม่านตาหดตัว หน้าเป็นสีชมพู แต่ชีพจรเต้นเร็วและแรง คืออาการของคนเป็นลมแดด
วิธีปฐมพยาบาล ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำโปะหน้าผาก หน้าอก กับซอกรักแร้ให้เย็นแล้วพามาพักในที่ร่ม
-ปกติการสันนิษฐานเวลาตายจะดูจากสีเลือดที่ผิว การแข็งตัวของศพ อุณหภูมิในช่องทวาร ในกรณีที่ศพอยู่ที่ใดที่หนึ่ง อุณหภูมิใดอุณหภูมิหนึ่ง
ที่คงที่ การสันนิษฐานจากเลือดที่ผิวด้านล่างซึ่งถูกน้ำหนักตัวของศพกดทับไว้จึงใช้ไม่ได้ จะตรวจจากการแข็งตัวของกล้ามเนื้อก็ทำไม่ได้ และ
การที่คลื่นซัดตัวตลอดเวลาทำให้อุณหภูมิในร่างกายเปลี่ยนแปลง อัตราการลดลงของอุณหภูมิในช่องทวารจึงต่างไปจากปกติ การสันนิษฐาน
เวลาที่แน่นอนจึงระบุไม่ได้
-หน้าซีดขาว เหงื่อออกมาก ชีพจรเต้นเร็ว มือสั่น ท่าทางหงุดหงิด แสดงว่าระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ เช่น ตอนทานยาลดน้ำตาลในเลือด (ยาที่คนไข้
เบาหวานใช้) ถ้าคนปกติกินเข้าไประดับน้ำตาลในเลือดจะลดต่ำกว่าเกณฑ์และถ้าเป็นแบบนี้นานๆ ร่างกายจะรับไม่ไหว จนตายในที่สุด
note:แน่นอน เซลล์ทุกเซลล์จำเป็นต้องใช้พลังงานในการทำงาน ทำหน้าที่ของมัน เมื่อมันขาดพลังงานซึ่งก็ได้มาจากน้ำตาลเป็นส่วนใหญ่จึงทำให้การทำงานของเซลล์นั้นๆ ผิดปกติไป ทำให้อาจถึงตายได้ แต่ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus,เรียกง่ายๆว่า DM)ร่างกายจะไม่สามารถนำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์เพื่อนำไปใช้เป็นพลังงานได้ จึงทำให้ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเกินไปจะทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายมากมาย เช่น เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะปลายระยางค์ (หมายถึง ปลายแขนขา เช่น นิ้ว) ไม่เพียงพอ ทำให้เกิดการเน่าของเนื้อเยื่อได้ และยังมีโรคแทรกซ้อนอีกมากมาย คนไข้เบาหวานจึงมักใช้ยาลดน้ำตาลในเลือดด้วยเหตุนี้
- Peritonitis : โรคเยื่อกระเพาะอักเสบ
Apoplexy : โรคเส้นโลหิตในสมองแตก
-ถ้าไม่ออกกำลังกายสม่ำเสมอทุกวัน พอแก่ตัวไปอาจจะเป็นโรคความดันสูง,เบาหวาน, โคเลสเตอรอลในเลือดสูง ที่เป็นบ่อเกิดของโรคหลอดเลือด
ในสมองตีบ, โรคหลอดเลือดไปเลี้ยงหัวใจอุดตัน
- ศีรษะด้านขวามีเลือดออกมาก มือและขาข้างซ้ายชาทั้งแถบ อาการแบบนี้อาจจะมีเลือดคั่งในเยื่อบุสมองเฉียบพลัน
note:เป็นอาการทางระบบประสาทชนิดหนึ่ง เกิดจากการที่สมองส่วนที่ทำหน้าที่รับความรู้สึกจากบริเวณแขนและขา(รวมทั้งมือและเท้า)ถูกทำลาย ทำให้แขน ขา มือ และ เท้า หมดความรู้สึกไป(ชา) แต่จะชาแบบไหน เกิดที่สมองส่วนไหน...ไม่อธิบายดีกว่า
CRIMINAL
- คนเราปกติเวลายิงตัวตาย จะเอาปืนจ่อที่หัวเลย ปากแผลจึงต้องมีคราบเขม่าดินปืน เวลายิงปืนกระสุนปืนจะพุ่งออกมาพร้อมกับความร้อน
ของดินปืน จึงต้องมีรอยคราบดำๆ ติดอยู่ด้วย
- กรณีที่ผู้ต้องหาออกนอกอาณาจักร การนับอายุความถือว่าหยุดไว้ชั่วคราว
- ปืนโทกาเรฟ ถ้าง้างนกลงเบาๆครึ่งนึงแล้วหยุดเป็นการใส่เซฟตี้
- ปืนออโตเมติก ดินปืนจะกระจายออกมาตอนที่ปลอกกระสุนดีดตัวออก แต่กรณีปืนริวอลเวอร์ดินปืนจะกระจายออกมาจากลำกล้องรัศมีเป็นวงกว้าง
ติดไปทั่วทั้งตัวแม้แต่รองเท้า
-ในร่างกายมนุษย์ส่วนที่สามารถใช้เป็นอาวุธทำร้ายคนอื่นได้รองจากฟัน ซึ่งเป็นสิ่งที่แข็งแรงที่สุดแล้วก็คงจะเป็นเล็บจริงที่ถูกตะไบจนแหลมคม
คล้ายมีด
- Panda car : รถตำรวจของอังกฤษสมัยก่อนเป็นสีดำตัดกับขาว ตำรวจ Lancashire ของอังกฤษเป็นพวกที่นำมาใช้เป็นครั้งแรกในปี 1965
- Pentagon : กระทรวงกลาโหมของอเมริกา (ตึกกระทรวงกลาโหมสร้างเป็นรูปห้าเหลี่ยม)
White House : คฤหาสถ์ที่พักของประธานาธิบดี (หรือที่เรียกว่าทำเนียบขาว)
Oval office : ห้องทำงานของประธานาธิบดี เป็นรูปโค้งเหมือนไข่
FBI : สำนักงานสืบสวนสอบสวนกลางสหรัฐอเมริกา
- คดีฆ่าคนตายอายุความ 15 ปี คดีแพ่ง 20 ปี
- กระเดื่องปรอท คือ ส่วนหนึ่งของตัวจุดระเบิด
CHEMICAL
- ในน้ำร้อน แค่นาทีเดียวแคปซูลก็ละลายได้
- แคปซูลจะใช้เวลาละลายและแตกตัวทำปฏิกิริยาในเลมอนที ประมาณ 15-16 นาที
-โซเดียมไฮดรอกไซด์ เป็นยาอันตรายที่ละลายได้ง่ายในน้ำ และดูดความชื้นได้ดี การจะพกพามันจึงจำเป็นต้องใส่ภาชนะที่ปิดมิดชิดและมียากันชื้น
-องค์ประกอบหลักของไข่มุกคือหินปูน ซึ่งเกิดปฏิกิริยากับกรดได้ง่าย ถ้าเปื้อนคราบไขมันจากมือ จะเกิดการออกซิไดซ์ทำให้ผิวหน้าสูญเสียความ
แวววาว และความแวววาวของไข่มุกมีอายุไม่กี่สิบปี
- ถ้าเราเอาน้ำยาล้างห้องน้ำประเภทคลอรีนกับประเภทเอซิดมาผสมรวมกัน จะทำให้เกิดก๊าซคลอรีนที่มีพิษได้
- สนิมที่อยู่บนเหรียญ 10 เยน หลุดออกหมด เป็นปฏิกิริยาออกไซด์ที่เกิดเมื่อทองแดงสัมผัสกับโพแทสเซียมไซยาไนด์
- ถ้านำฟีโนลฟทาเลน (Phenolphtalein) มาทำละลายกับแอลกอฮอล์จนได้ของเหลวไม่มีสี แล้วนำไปหยดลงในสารละลายแอมโมเนียซึ่งปราศจากสี
เช่นกัน จะเกิดกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เปลี่ยนเป็นสีแดงได้ราวกับมีเวทมนตร์
note: คิดว่าน่าจะคล้ายๆกับการไทเทรตสาร...(เราอ่านว่า ฟีนอล์ฟทาลีน)
-ถ้าเอายากำจัดแมลงประเภทฟีโรโมน (Pheromone)ของผีเสื้อกลางคืนตัวเมียมาทาที่หน้าต่างมุ้งลวด ฝูงผีเสื้อกลางคืนตัวผู้ที่ได้กลิ่นก็
จะบินมาเกาะ
note: Pheromone เป็นสารเคมีที่สร้างจากต่อมมีท่อไปมีผลต่อสัตว์ตัวอื่นที่เป็นชนิดเดียวกัน เช่น ดึงดูดเพศตรงข้าม เป็นสารเตือนภัย
- เมื่อเอาคลอโรฟอร์มมาเปิดใส่เครื่องปรับอากาศสามารถทำให้ทุกคนหลับสนิทได้
คลอโรฟอร์ม มีฤทธิ์เป็นยาสลบ
- กลิ่นเลมอนกลาส (ตะไคร้) กับซิโทรเนลลา (ตระไคร้หอม) เอาไว้ใช้ไล่แมลง
- เลือดของคนเราจะแข็งตัวในอุณหภูมิปกติต้องใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที
- ขากรรไกรยังไม่แข็ง แต่ม่านตาริ่มปิดแล้ว ถ้าดูจากอุณหภูมิร่างกายที่ลดลง แสดงว่าเสียชีวิตได้ 40-50 นาที
- ปากกระป๋องเริ่มผุ แต่หลอดไม่มีอะไรผิดปกติ แสดงว่าเป็นโซเดียมไฮดรอกไซด์ ต้องรีบล้างเอาของในปากออกมา (หาอะไรที่เป็นโปรตีนล้าง)
note:การใช้โปรตีน เช่น นม ไข่ขาว ล้างเพื่อให้โปรตีนไปทำปฏิกิริยากับสารพิษ ทำให้โปรตีนนั้นเสียสภาพ denature) ทำให้ตกตะกอนเอาสารพิษนั้นออกมาได้ ทำให้ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
- ปลายเท้าเริ่มแข็ง แสดงว่าตายมาหลายชั่วโมงแล้ว (กว่า 7 ชั่วโมง)
-กรณีที่เสียชีวิตกระทันหันขณะที่ร่างกายมีการออกกำลังกายมากๆ ในกรณีนั้นกล้ามเนื้อจะเครียด และแข็งตัวง่าย ทำให้ศพแข็งตัวเร็วกว่าการตายแบบปกติ (ตายแบบ มุซาชิโบ เบ็งเค)
- ริมฝีปากกับปลายมือปลายเท้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วง มีเส้นเลือดแตกในตา เป็นอาการของการเสียชีวิต เนื่องจากขาดอากาศหายใจ แต่ไม่มี
ทั้งร่องรอยการถูกกัด ไม่มีสภาพของการจมน้ำ หรือแม้แต่ สภาพดิ้นรนทุรนทุราย โอกาสเป็นไปได้จึงมีเพียง ถูกพิษที่ทำให้ระบบประสาท
เป็นอัมพาต หายใจไม่ออก จนตายเป็นพิษที่รุนแรง ที่ทำให้ตายได้ในเวลาสั้นๆ และการที่ศพยังอุ่นอยู่ กับการที่ร่างกายยังไม่มีส่วนใด
แข็งตัวเลย แสดงให้เห็นว่า ศพถูกพบในช่วงเวลาประมาณ 30 นาที หลังการเสียชีวิต
-ปอดมีรูรั่ว (แทงทะลุปอด) ถึงแม้จะสูดลมเข้าไป ปอดก็ไม่ขยายทำให้หายใจไม่ได้ กว่าจะเสียชีวิตก็กินเวลาตั้ง 10-15 นาที ทรมานมากทีเดียว
- ปกติร่างกายคนเราหลังจากเสียชีวิตประมาณ 30 นาที - 2 ชั่วโมง ร่างกายจะเริ่มแข็ง 9-12 ชั่วโมง จะแข็งหมดทั้งตัว หลังจากนั้นไป
30 ชั่วโมง ร่างกายจะแข็งขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขีดสุดแล้วจะเริ่มอ่อนตัวลงจน 70 ชั่วโมง ก็จะกลับเป็นอย่างเดิม
- ถ้าอุณหภูมิรอบๆศพ สูงประมาณ 35 องศา เวลาในการแข็งตัวและอ่อนตัวของศพจะเร็วขึ้นแค่ 24-30 ชั่วโมง ศพก็เริ่มอ่อนตัวลงแล้ว
-อโคนิซิน เป็นพวกที่มีฤทธิ์ทำให้ระบบประสาทเป็นอัมพาต สกัดได้จากใบหรือรากของต้นอโคไนท์ เป็นยาพิษที่ร้ายแรงมาก หากเข้าสู่ร่างกายเพียง 2 มก.จะทำให้อวัยวะภายในถูกทำลายเสียชีวิตในเวลาไม่กี่นาที มันมีอยู่มากตามป่าเขา คนส่วนใหญ่เขาจะเอาส่วนที่เป็นพิษออก เอาที่เหลือไปทำยาโด๊ป
- จิโอโซเดียมซัลเฟต เป็นน้ำยาฟอกขาวที่แพทย์มักใช้ล้างสีของน้ำยาฆ่าเชื้อ เป็นยาล้างสภาพความเป็นพิษของโปแตสเซียมไซยาไนด์ได้อีกด้วย
- ถ้าฝังศพไว้ในดิน ไม่ให้สัมผัสถูกอากาศ อัตราการเน่าเปื่อยจะช้าลงกว่าปกติ 1/8 เท่า เทียบกับในน้ำก็ยังช้ากว่าเท่าตัว
- รอยเลือดของมนุษย์ที่ตกลงพื้น จะมีลักษณะแตกต่างกันตามความสูง ยิ่งสูงวงก็จะยิ่งใหญ่และรัศมีแตกกระจายกว้างมาก
-สารทันนินในน้ำชา ใช้ล้างปากแผลระงับพิษงู เป็นวิธีปฐมพยาบาลคนที่ถูกงูทะเลกัดได้ดีที่สุด คนที่ใช้ปากดูดพิษงูออก ก็ต้องใช้น้ำชา กลั้วพิษงูออกจากปากด้วยเหมือนกัน
- ศพที่ถูกเผา กระดูก กล้ามเนื้อ เอ็น และส่วนต่างๆ ในร่างกายจะเกิดปฏิกิริยากับความร้อนทำให้แข็งตัวและหดตัวเข้า แต่เพราะกล้ามเนื้อที่ใช้
งอแขนขา มีมากกว่าที่ใช้ยึดข้อต่อต่างๆ จึงอยู่ในลักษณะกึ่งๆงอเข้าเหมือนท่าตั้งการ์ดของนักมวย
- ศพเย็นแล้ว คงเสียชีวิตมาประมาณ 1 ชั่วโมง
- ปกติคนเสียชีวิตตัวจะต้องซีด แต่ถ้าริมฝีปากกับเล็บเป็นสีชมพูอมม่วง แสดงว่าตายด้วยโพแทสเซียมไซยาไนด์ เพราะโพแทสเซียมไซยาไนด์
ต่างกับพิษชนิดอื่น ถ้าดื่มเข้าไปจะทำให้การส่งผ่านอิเล็กตรอนในเซลล์ถูกทำลาย เอนไซม์ในกระแสเลือดจะไม่ทำงาน แทนที่ตัวจะซีดจึงกลับ
มีสีเลือด และที่ปากจะมีกลิ่นอัลมอนด์ โพแทสเซียมไซยาไนด์เมื่อแช่แข็งแล้วจะละลายยาก
note:โพแทสเซียมไซยาไนด์ (KCN) ไปรบกวนกระบวนการขนส่งอิเล็กตรอนหรือ electron transport system (ETS) ในกระบวนการสลายอาหาร หรือที่เข้าใจกันว่า กระบวนการหายใจ(แบบใช้ออกซิเจน) ทำให้ไม่สามารถสร้างพลังงาน (ในรูปATP)ให้แก่ร่างกายได้ เอนไซม์และเซลล์ต่างๆ ในร่างกายจึงไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ จึงเป็นสาเหตุให้ถึงแก่ความตายได้(รายละเอียดของกระบวนการขนส่งอิเล็กตรอน ศึกษาในวิชาชีววิทยาตอน ม.ปลาย เองนะถ้าจะให้อธิบายคงยาวน่าดู)
- Tetrodotoxin = พิษปักเป้า ชื่อย่อคือ TTX เป็นพิษที่น่าทึ่งมาก ปริมาณแค่ 0.5 - 1 mg. หรือ ประมาณ 1/200 ของโปแตสเซียมไซยาไนด์
ก็ทำให้คนตายได้ ถ้าเข้าร่างกายทางปาก พิษจะกระจายช้า โอกาสช่วยชีวิตได้มีอยู่มาก แต่ถ้าเข้าสู่ร่างกายทางกระแสเลือดโดยตรง ชั่วเวลา
สั้นๆ ระบบประสาทจะเป็นอัมพาต ระบบหายใจจะหยุดทำงาน แล้วก็ตายในที่สุด
- การปฐมพยาบาลข้อเท้าพลิก เอากรรไกรตัดผ้าขนหนูซิกแซกไปมา จะได้ผ้าพันแผลยาวๆ ก่อนอื่นพันที่ข้อเท้า 2 รอบ แล้วพันจากหลังเท้ามาที่
ฝ่าเท้า แล้วอ้อมกลับไปที่ข้อเท้าอีกที พันซ้ำอย่างนี้ ขยับขึ้นไปเรื่อยๆ สุดท้ายผูกปลายมัดให้แน่น
- การหาวและปวดตามข้อเป็นอาการถอนยาของคนติดยาเสพย์ติด
- Heparin ยาป้องกันเลือดแข็งตัว ปกติแล้วเลือดมักจะแข็งตัวเป็นก้อนในเวลาไม่นานทำให้พกพาไม่สะดวก แต่ถ้าผสม Heparin เข้าไปและ
ใส่ไว้ในถุงที่ปิดมิดชิดเป็นถุงเลือด จะสามารถพกพาได้สบาย
- รูมินอล เมื่อฉีดพ่นใส่รอยเลือด แอคทีฟออกซิเจนในเลือดจะเกิดออกซิเดชั่น สารเรืองแสงก็จะเปล่งแสงสีม่วงฟ้าออกมา
- ริมฝีปากเปลี่ยนเป็นสีม่วง แต่ไม่มีอาการลมหายใจติดขัด แถมยังมีกลิ่นอัลมอลด์ เป็นลักษณะพิเศษของก๊าซกรดไซยาไนด์
- อุณหภูมิร่างกายสูง ผิวหนังแห้ง ไม่มีเหงื่อ รูม่านตาหดตัว หน้าเป็นสีชมพู แต่ชีพจรเต้นเร็วและแรง คืออาการของคนเป็นลมแดด
วิธีปฐมพยาบาล ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำโปะหน้าผาก หน้าอก กับซอกรักแร้ให้เย็นแล้วพามาพักในที่ร่ม
-ปกติการสันนิษฐานเวลาตายจะดูจากสีเลือดที่ผิว การแข็งตัวของศพ อุณหภูมิในช่องทวาร ในกรณีที่ศพอยู่ที่ใดที่หนึ่ง อุณหภูมิใดอุณหภูมิหนึ่ง
ที่คงที่ การสันนิษฐานจากเลือดที่ผิวด้านล่างซึ่งถูกน้ำหนักตัวของศพกดทับไว้จึงใช้ไม่ได้ จะตรวจจากการแข็งตัวของกล้ามเนื้อก็ทำไม่ได้ และ
การที่คลื่นซัดตัวตลอดเวลาทำให้อุณหภูมิในร่างกายเปลี่ยนแปลง อัตราการลดลงของอุณหภูมิในช่องทวารจึงต่างไปจากปกติ การสันนิษฐาน
เวลาที่แน่นอนจึงระบุไม่ได้
-หน้าซีดขาว เหงื่อออกมาก ชีพจรเต้นเร็ว มือสั่น ท่าทางหงุดหงิด แสดงว่าระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ เช่น ตอนทานยาลดน้ำตาลในเลือด (ยาที่คนไข้
เบาหวานใช้) ถ้าคนปกติกินเข้าไประดับน้ำตาลในเลือดจะลดต่ำกว่าเกณฑ์และถ้าเป็นแบบนี้นานๆ ร่างกายจะรับไม่ไหว จนตายในที่สุด
note:แน่นอน เซลล์ทุกเซลล์จำเป็นต้องใช้พลังงานในการทำงาน ทำหน้าที่ของมัน เมื่อมันขาดพลังงานซึ่งก็ได้มาจากน้ำตาลเป็นส่วนใหญ่จึงทำให้การทำงานของเซลล์นั้นๆ ผิดปกติไป ทำให้อาจถึงตายได้ แต่ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus,เรียกง่ายๆว่า DM)ร่างกายจะไม่สามารถนำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์เพื่อนำไปใช้เป็นพลังงานได้ จึงทำให้ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเกินไปจะทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายมากมาย เช่น เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะปลายระยางค์ (หมายถึง ปลายแขนขา เช่น นิ้ว) ไม่เพียงพอ ทำให้เกิดการเน่าของเนื้อเยื่อได้ และยังมีโรคแทรกซ้อนอีกมากมาย คนไข้เบาหวานจึงมักใช้ยาลดน้ำตาลในเลือดด้วยเหตุนี้
- Peritonitis : โรคเยื่อกระเพาะอักเสบ
Apoplexy : โรคเส้นโลหิตในสมองแตก
-ถ้าไม่ออกกำลังกายสม่ำเสมอทุกวัน พอแก่ตัวไปอาจจะเป็นโรคความดันสูง,เบาหวาน, โคเลสเตอรอลในเลือดสูง ที่เป็นบ่อเกิดของโรคหลอดเลือด
ในสมองตีบ, โรคหลอดเลือดไปเลี้ยงหัวใจอุดตัน
- ศีรษะด้านขวามีเลือดออกมาก มือและขาข้างซ้ายชาทั้งแถบ อาการแบบนี้อาจจะมีเลือดคั่งในเยื่อบุสมองเฉียบพลัน
note:เป็นอาการทางระบบประสาทชนิดหนึ่ง เกิดจากการที่สมองส่วนที่ทำหน้าที่รับความรู้สึกจากบริเวณแขนและขา(รวมทั้งมือและเท้า)ถูกทำลาย ทำให้แขน ขา มือ และ เท้า หมดความรู้สึกไป(ชา) แต่จะชาแบบไหน เกิดที่สมองส่วนไหน...ไม่อธิบายดีกว่า
CRIMINAL
- คนเราปกติเวลายิงตัวตาย จะเอาปืนจ่อที่หัวเลย ปากแผลจึงต้องมีคราบเขม่าดินปืน เวลายิงปืนกระสุนปืนจะพุ่งออกมาพร้อมกับความร้อน
ของดินปืน จึงต้องมีรอยคราบดำๆ ติดอยู่ด้วย
- กรณีที่ผู้ต้องหาออกนอกอาณาจักร การนับอายุความถือว่าหยุดไว้ชั่วคราว
- ปืนโทกาเรฟ ถ้าง้างนกลงเบาๆครึ่งนึงแล้วหยุดเป็นการใส่เซฟตี้
- ปืนออโตเมติก ดินปืนจะกระจายออกมาตอนที่ปลอกกระสุนดีดตัวออก แต่กรณีปืนริวอลเวอร์ดินปืนจะกระจายออกมาจากลำกล้องรัศมีเป็นวงกว้าง
ติดไปทั่วทั้งตัวแม้แต่รองเท้า
-ในร่างกายมนุษย์ส่วนที่สามารถใช้เป็นอาวุธทำร้ายคนอื่นได้รองจากฟัน ซึ่งเป็นสิ่งที่แข็งแรงที่สุดแล้วก็คงจะเป็นเล็บจริงที่ถูกตะไบจนแหลมคม
คล้ายมีด
- Panda car : รถตำรวจของอังกฤษสมัยก่อนเป็นสีดำตัดกับขาว ตำรวจ Lancashire ของอังกฤษเป็นพวกที่นำมาใช้เป็นครั้งแรกในปี 1965
- Pentagon : กระทรวงกลาโหมของอเมริกา (ตึกกระทรวงกลาโหมสร้างเป็นรูปห้าเหลี่ยม)
White House : คฤหาสถ์ที่พักของประธานาธิบดี (หรือที่เรียกว่าทำเนียบขาว)
Oval office : ห้องทำงานของประธานาธิบดี เป็นรูปโค้งเหมือนไข่
FBI : สำนักงานสืบสวนสอบสวนกลางสหรัฐอเมริกา
- คดีฆ่าคนตายอายุความ 15 ปี คดีแพ่ง 20 ปี
- กระเดื่องปรอท คือ ส่วนหนึ่งของตัวจุดระเบิด
CHEMICAL
- ในน้ำร้อน แค่นาทีเดียวแคปซูลก็ละลายได้
- แคปซูลจะใช้เวลาละลายและแตกตัวทำปฏิกิริยาในเลมอนที ประมาณ 15-16 นาที
-โซเดียมไฮดรอกไซด์ เป็นยาอันตรายที่ละลายได้ง่ายในน้ำ และดูดความชื้นได้ดี การจะพกพามันจึงจำเป็นต้องใส่ภาชนะที่ปิดมิดชิดและมียากันชื้น
-องค์ประกอบหลักของไข่มุกคือหินปูน ซึ่งเกิดปฏิกิริยากับกรดได้ง่าย ถ้าเปื้อนคราบไขมันจากมือ จะเกิดการออกซิไดซ์ทำให้ผิวหน้าสูญเสียความ
แวววาว และความแวววาวของไข่มุกมีอายุไม่กี่สิบปี
- ถ้าเราเอาน้ำยาล้างห้องน้ำประเภทคลอรีนกับประเภทเอซิดมาผสมรวมกัน จะทำให้เกิดก๊าซคลอรีนที่มีพิษได้
- สนิมที่อยู่บนเหรียญ 10 เยน หลุดออกหมด เป็นปฏิกิริยาออกไซด์ที่เกิดเมื่อทองแดงสัมผัสกับโพแทสเซียมไซยาไนด์
- ถ้านำฟีโนลฟทาเลน (Phenolphtalein) มาทำละลายกับแอลกอฮอล์จนได้ของเหลวไม่มีสี แล้วนำไปหยดลงในสารละลายแอมโมเนียซึ่งปราศจากสี
เช่นกัน จะเกิดกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เปลี่ยนเป็นสีแดงได้ราวกับมีเวทมนตร์
note: คิดว่าน่าจะคล้ายๆกับการไทเทรตสาร...(เราอ่านว่า ฟีนอล์ฟทาลีน)
-ถ้าเอายากำจัดแมลงประเภทฟีโรโมน (Pheromone)ของผีเสื้อกลางคืนตัวเมียมาทาที่หน้าต่างมุ้งลวด ฝูงผีเสื้อกลางคืนตัวผู้ที่ได้กลิ่นก็
จะบินมาเกาะ
note: Pheromone เป็นสารเคมีที่สร้างจากต่อมมีท่อไปมีผลต่อสัตว์ตัวอื่นที่เป็นชนิดเดียวกัน เช่น ดึงดูดเพศตรงข้าม เป็นสารเตือนภัย
- เมื่อเอาคลอโรฟอร์มมาเปิดใส่เครื่องปรับอากาศสามารถทำให้ทุกคนหลับสนิทได้
คลอโรฟอร์ม มีฤทธิ์เป็นยาสลบ
- กลิ่นเลมอนกลาส (ตะไคร้) กับซิโทรเนลลา (ตระไคร้หอม) เอาไว้ใช้ไล่แมลง
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ