วิทยาการรหัสลับ
+10
fathr
/Charcoal/
Mameaw
VIOLET_S
Landstad
BlackZeros
asavavarint
mimozaa
NAMPEUNG
khaw dissaro
14 posters
หน้า 2 จาก 2 • 1, 2
- ผู้มาเยือนผู้มาเยือน
วิทยาการรหัสลับ
Tue Mar 19, 2013 4:11 am
First topic message reminder :
ก่อนที่เราจะเริ่มสร้างรหัสลับ ลองมาดูคำจำกัดความของรหัสลับกันก่อนดีว่า
วิทยาการรหัสลับ (cryptography)
>>> อะไรคือ วิทยาการรหัสลับ ?
วิทยาการรหัสลับ ในภาษาอังกฤษเรียกว่า cryptography แปลง่ายๆคือ ศาสตร์ในการออกแบบระบบรหัสลับ เพื่อใช้ในการ ส่งข้อมูลที่เป็นความลับ
ผ่านช่องทางสื่อสารที่ไม่เป็นความลับ ระบบรหัสลับ คือ ระบบที่จะทำการ ‘ซ่อน’ ข้อมูลของเรา เข้าไปในข้อความที่เป็นรหัสลับ
โดยต้องใช้กุญแจแปลงข้อมูล ก่อนที่จะถูกส่งออกไปให้เฉพาะผู้รับที่เราตั้งใจจะส่งข้อมูลให้เท่านั้น ซึ่งจะนำมาไขข้อมูลที่ถูกซ่อนได้
(--- อ่า เริ่มต้นก็ชักเหนื่อย ไม่เข้าใจแล้ว ไม่เป็นไร ข้ามไป)
(มาลองเริ่มแบบนี้กันดีกว่า)
เริ่มที่คำว่า ‘วิทยาการรหัสลับ’ หรือ ‘รหัสลับ’ คงไม่มีใครปฏิเสธว่าไม่รู้จัก (แล้วทำไม? ยุ่งยาก ซับซ้อน ไม่เห็นจะเข้าใจ เราจำเป็นต้องใช้หรอ??)
ในความเป็นจริงวิทยาการรหัสลับไม่แค่ถูกใช้ในหมู่สายลับ แต่คนธรรมดาๆก็ใช้มันเหมือนกัน เพียงแค่บางทีเราอาจนึกไม่ถึงกันเท่านั้นเอง
เช่นในเวลาที่เราจะ log on เพื่อเปิดอ่านอีเมลล์ หรือแม้กระทั่งตอนที่เรากด ATM เพื่อเอาตัง ล้วนแต่เกี่ยวข้องกับวิทยาการรหัสลับทั้งนั้น
>>>เอ๊ะ? แล้วทำไมเราถึงต้องมีวิทยาการรหัสลับล่ะ
อืม..สมมติว่าเรามีข้อมูลอยู่อันหนึ่ง ต้องการจะส่งให้เพื่อน จะส่งกันยังไง?
ไม่ว่าเราจะส่งด้วยวิธีไหน เราก็สามารถแยกวิธีทั้งหมดออกได้เป็นสองกลุ่ม
>กลุ่มแรก โดยผ่านช่องทางสื่อสารที่ไม่เป็นความลับ
เช่น โทรศัพท์ โทรสาร วิทยุสื่อสาร หรืออินเตอร์เน็ต ช่องทางนี้ ไม่เป็นความลับก็เพราะว่า คนอื่นสามารถที่จะ ดักฟัง ข้อมูลจากช่องสื่อสารดังกล่าวได้
>อีกกลุ่ม คือผ่านช่องทางสื่อสารที่เป็นความลับ เช่น การพบปะกันตัวต่อตัว หรือการใช้ผู้นำสารที่เชื่อถือได้
เอ๊ะ..บางคนอาจจะเถียงว่า ถึงจะพบกันตัวต่อตัว หรือใช้ผู้นำสาร ก็มีวิธีล้วงความลับตั้งหลายแบบ อย่างส่งเจมส์ บอนด์ไปปล้นมาไง (!!!)
แล้วทีนี้ยังจะเรียกว่าเป็นความลับได้ยังไง
อืม..ก็คงต้องยอมรับว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ แต่มันอยู่เหนือขอบเขตของบทเรียนเรา เพราะงั้น เราไม่พูดถึงแล้วกันเนอะ (อ้าววว!!??)
เข้าเรื่องของเราต่อ
ทีนี้ถ้าข้อมูลของเราเป็นเรื่องลับสุดยอด (อย่างเช่น มีมนุษย์ต่างดาวกำลังปลอมตัวมาบุกโลก----ข้ามไปเถอะ)
เราก็คงอยากจะส่งข้อมูลผ่านช่องทางสื่อสารที่เป็นความลับ
เพราะถ้าเกิดส่งผ่านช่องทางที่ไม่เป็นความลับ ความลับแตกขึ้นมา (โดนคนล่าไปออกงานวัด ที่หนักว่า ขูดขอหวย!!) ไม่ไหวๆ
แต่ เอ๊ะ!..มานึกดูอีกที ถ้าเพื่อนเราอยู่ซิมบับเว (???) แต่ตัวเราอยู่เมืองไทย
จะให้พบตัวต่อตัวก็คงไม่สะดวกแน่ๆ จะใช้ผู้นำสารหรอ ก็แพงแสนแพง(ไม่ไหวอะ ตอนนี้ช็อต)
หรือไม่ก็อาจชักช้า ไม่ทันการ (กว่าจะรอตีตั๋ว นัดเวลารอพบ)
เฮ้ออ ถ้าเราใช้โทรศัพท์ หรืออินเตอร์เน็ต ส่งข้อมูลลับได้ก็ดีสินะ ไหนจะถูก สะดวก รวดเร็ว
แต่เดี๋ยวก่อน! ความจริงแล้ว เราทำได้นะ โดยอาศัย ‘วิทยาการรหัสลับ’ นี่แหละ
>>คาบต่อไปเราจะมาลองสร้างรหัสลับแบบง่ายๆกันดู
>>ส่วนคาบนี้ยังไม่มีการบ้าน มาคุย ทำความรู้จัก และตกลงเรื่องคาบเรียนกันก่อน ว่า จะเรียนกันอาทิตย์ละคาบ หรือสองคาบต่ออาทิตย์
>>เพราะถึงจะปิดเทอมกันแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าจะว่างกันรึเปล่า
>>แล้วก็ใครอยากรู้เกี่ยวกับการสร้างรหัสลับแบบไหนเพิ่มเติม หรือแนะนำอะไร เต็มที่เลยนะ ถ้ายังไม่มีในเนื้อหาที่เตรียมไว้ จะได้ลองไปศึกษาเพิ่มเติม
>>ส่วนคาบแรก เอาเกมง่ายๆมาให้ลองเล่นก่อน ไม่ใช่การบ้านนะคะ ไม่ต้องส่ง แชร์คำตอบ พูดคุยกับเพื่อนในกระทู้นี้ได้เลย
>>> ณ โรงแรมแห่งหนึ่งได้เกิดคดีฆาตรกรรมขึ้นที่ห้อง 505 ไม่มีร่องรอยอะไร มีเพียงหลักฐานชิ้นเดียวที่ผู้ตายได้ทิ้งไว้ให้
คือเลข 12345 บนหน้าปัด เครื่องคิดเลข ตำรวจชี้ตัวไปที่เพื่อนข้างห้อง ซึ่งน่าจะเป็นผู้ต้องสงสัย มีดังนี้
A.เพศชาย อายุ 21ปี ห้อง 502
B.เพศหญิง อายุ 29ปี ห้อง 503
C.เพศหญิง อายุ 23ปี ห้อง 504
D.เพศชาย อายุ 23ปี ห้อง 506
E.เพศหญิง อายุ 21ปี ห้อง 507
F.เพศชาย อายุ 32ปี ห้อง 508
G.เพศชาย อายุ 25ปี ห้อง 509
>> คุณรู้ไหม?? ใครคือคนร้าย
ก่อนที่เราจะเริ่มสร้างรหัสลับ ลองมาดูคำจำกัดความของรหัสลับกันก่อนดีว่า
วิทยาการรหัสลับ (cryptography)
>>> อะไรคือ วิทยาการรหัสลับ ?
วิทยาการรหัสลับ ในภาษาอังกฤษเรียกว่า cryptography แปลง่ายๆคือ ศาสตร์ในการออกแบบระบบรหัสลับ เพื่อใช้ในการ ส่งข้อมูลที่เป็นความลับ
ผ่านช่องทางสื่อสารที่ไม่เป็นความลับ ระบบรหัสลับ คือ ระบบที่จะทำการ ‘ซ่อน’ ข้อมูลของเรา เข้าไปในข้อความที่เป็นรหัสลับ
โดยต้องใช้กุญแจแปลงข้อมูล ก่อนที่จะถูกส่งออกไปให้เฉพาะผู้รับที่เราตั้งใจจะส่งข้อมูลให้เท่านั้น ซึ่งจะนำมาไขข้อมูลที่ถูกซ่อนได้
(--- อ่า เริ่มต้นก็ชักเหนื่อย ไม่เข้าใจแล้ว ไม่เป็นไร ข้ามไป)
(มาลองเริ่มแบบนี้กันดีกว่า)
เริ่มที่คำว่า ‘วิทยาการรหัสลับ’ หรือ ‘รหัสลับ’ คงไม่มีใครปฏิเสธว่าไม่รู้จัก (แล้วทำไม? ยุ่งยาก ซับซ้อน ไม่เห็นจะเข้าใจ เราจำเป็นต้องใช้หรอ??)
ในความเป็นจริงวิทยาการรหัสลับไม่แค่ถูกใช้ในหมู่สายลับ แต่คนธรรมดาๆก็ใช้มันเหมือนกัน เพียงแค่บางทีเราอาจนึกไม่ถึงกันเท่านั้นเอง
เช่นในเวลาที่เราจะ log on เพื่อเปิดอ่านอีเมลล์ หรือแม้กระทั่งตอนที่เรากด ATM เพื่อเอาตัง ล้วนแต่เกี่ยวข้องกับวิทยาการรหัสลับทั้งนั้น
>>>เอ๊ะ? แล้วทำไมเราถึงต้องมีวิทยาการรหัสลับล่ะ
อืม..สมมติว่าเรามีข้อมูลอยู่อันหนึ่ง ต้องการจะส่งให้เพื่อน จะส่งกันยังไง?
ไม่ว่าเราจะส่งด้วยวิธีไหน เราก็สามารถแยกวิธีทั้งหมดออกได้เป็นสองกลุ่ม
>กลุ่มแรก โดยผ่านช่องทางสื่อสารที่ไม่เป็นความลับ
เช่น โทรศัพท์ โทรสาร วิทยุสื่อสาร หรืออินเตอร์เน็ต ช่องทางนี้ ไม่เป็นความลับก็เพราะว่า คนอื่นสามารถที่จะ ดักฟัง ข้อมูลจากช่องสื่อสารดังกล่าวได้
>อีกกลุ่ม คือผ่านช่องทางสื่อสารที่เป็นความลับ เช่น การพบปะกันตัวต่อตัว หรือการใช้ผู้นำสารที่เชื่อถือได้
เอ๊ะ..บางคนอาจจะเถียงว่า ถึงจะพบกันตัวต่อตัว หรือใช้ผู้นำสาร ก็มีวิธีล้วงความลับตั้งหลายแบบ อย่างส่งเจมส์ บอนด์ไปปล้นมาไง (!!!)
แล้วทีนี้ยังจะเรียกว่าเป็นความลับได้ยังไง
อืม..ก็คงต้องยอมรับว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ แต่มันอยู่เหนือขอบเขตของบทเรียนเรา เพราะงั้น เราไม่พูดถึงแล้วกันเนอะ (อ้าววว!!??)
เข้าเรื่องของเราต่อ
ทีนี้ถ้าข้อมูลของเราเป็นเรื่องลับสุดยอด (อย่างเช่น มีมนุษย์ต่างดาวกำลังปลอมตัวมาบุกโลก----ข้ามไปเถอะ)
เราก็คงอยากจะส่งข้อมูลผ่านช่องทางสื่อสารที่เป็นความลับ
เพราะถ้าเกิดส่งผ่านช่องทางที่ไม่เป็นความลับ ความลับแตกขึ้นมา (โดนคนล่าไปออกงานวัด ที่หนักว่า ขูดขอหวย!!) ไม่ไหวๆ
แต่ เอ๊ะ!..มานึกดูอีกที ถ้าเพื่อนเราอยู่ซิมบับเว (???) แต่ตัวเราอยู่เมืองไทย
จะให้พบตัวต่อตัวก็คงไม่สะดวกแน่ๆ จะใช้ผู้นำสารหรอ ก็แพงแสนแพง(ไม่ไหวอะ ตอนนี้ช็อต)
หรือไม่ก็อาจชักช้า ไม่ทันการ (กว่าจะรอตีตั๋ว นัดเวลารอพบ)
เฮ้ออ ถ้าเราใช้โทรศัพท์ หรืออินเตอร์เน็ต ส่งข้อมูลลับได้ก็ดีสินะ ไหนจะถูก สะดวก รวดเร็ว
แต่เดี๋ยวก่อน! ความจริงแล้ว เราทำได้นะ โดยอาศัย ‘วิทยาการรหัสลับ’ นี่แหละ
>>คาบต่อไปเราจะมาลองสร้างรหัสลับแบบง่ายๆกันดู
>>ส่วนคาบนี้ยังไม่มีการบ้าน มาคุย ทำความรู้จัก และตกลงเรื่องคาบเรียนกันก่อน ว่า จะเรียนกันอาทิตย์ละคาบ หรือสองคาบต่ออาทิตย์
>>เพราะถึงจะปิดเทอมกันแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่าจะว่างกันรึเปล่า
>>แล้วก็ใครอยากรู้เกี่ยวกับการสร้างรหัสลับแบบไหนเพิ่มเติม หรือแนะนำอะไร เต็มที่เลยนะ ถ้ายังไม่มีในเนื้อหาที่เตรียมไว้ จะได้ลองไปศึกษาเพิ่มเติม
>>ส่วนคาบแรก เอาเกมง่ายๆมาให้ลองเล่นก่อน ไม่ใช่การบ้านนะคะ ไม่ต้องส่ง แชร์คำตอบ พูดคุยกับเพื่อนในกระทู้นี้ได้เลย
>>> ณ โรงแรมแห่งหนึ่งได้เกิดคดีฆาตรกรรมขึ้นที่ห้อง 505 ไม่มีร่องรอยอะไร มีเพียงหลักฐานชิ้นเดียวที่ผู้ตายได้ทิ้งไว้ให้
คือเลข 12345 บนหน้าปัด เครื่องคิดเลข ตำรวจชี้ตัวไปที่เพื่อนข้างห้อง ซึ่งน่าจะเป็นผู้ต้องสงสัย มีดังนี้
A.เพศชาย อายุ 21ปี ห้อง 502
B.เพศหญิง อายุ 29ปี ห้อง 503
C.เพศหญิง อายุ 23ปี ห้อง 504
D.เพศชาย อายุ 23ปี ห้อง 506
E.เพศหญิง อายุ 21ปี ห้อง 507
F.เพศชาย อายุ 32ปี ห้อง 508
G.เพศชาย อายุ 25ปี ห้อง 509
>> คุณรู้ไหม?? ใครคือคนร้าย
------------------------------------------------------------------------------------------------------
มีเพื่อนตอบถูกแล้วนะคะ แต่อุบไว้ก่อนว่าคนไหน ลองอ่านดูดีๆอีกรอบ
เลข "12345" บนหน้าปัด "เครื่องคิดเลข"
อ่ะ ลองดูรูปอาจจะเห็นภาพมากขึ้น
เริ่มมีคนตอบได้กันแล้ว ดูคำใบ้ต่อเลยเนอะ
--อย่ามองแค่มุมเดียว ลองมองในมุมที่แตกต่าง--
มีเพื่อนตอบถูกแล้วนะคะ แต่อุบไว้ก่อนว่าคนไหน ลองอ่านดูดีๆอีกรอบ
เลข "12345" บนหน้าปัด "เครื่องคิดเลข"
อ่ะ ลองดูรูปอาจจะเห็นภาพมากขึ้น
เริ่มมีคนตอบได้กันแล้ว ดูคำใบ้ต่อเลยเนอะ
--อย่ามองแค่มุมเดียว ลองมองในมุมที่แตกต่าง--
หวังว่าคงสนุกกับบทเรียนนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก vcharkarn.com นำเนื้อหามาดัดแปลง เพิ่มเติมนิดหน่อย เพื่อให้อ่านเข้าใจง่ายขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก vcharkarn.com นำเนื้อหามาดัดแปลง เพิ่มเติมนิดหน่อย เพื่อให้อ่านเข้าใจง่ายขึ้น
- /Charcoal/ผู้รวบรวมความจริง
- จำนวนข้อความ : 2222
ชื่อเสียง&น้ำใจ : 171
วันเกิด : 02/03/1920
Re: วิทยาการรหัสลับ
Fri Mar 22, 2013 9:37 am
ipromise พิมพ์ว่า:/Charcoal/ พิมพ์ว่า:ipromise พิมพ์ว่า:/Charcoal/ พิมพ์ว่า:sugar_rune พิมพ์ว่า:ตอบได้แล้ววววว
E.เพศหญิง อายุ 21ปี ห้อง 507
เพราะ กดเลขใส่เครื่องคิดเลขและ กลับหัวอ่านดูสิค่ะ ^^
คงถูกแล้วล่ะครับ แต่คนตายนี่ต้องอัจฉริยะมากเลยนะครับ ที่รู้ว่าจะต้องกดยังไงให้ออกมาเป็นคำนี้อ่า พิมพ์เลขออกมาตรงๆก็ไม่ได้ เหมือนกลัวคนรู้คนร้าย
ถ้าผมเป็นคนตายแล้วมีผู้หญิงอายุ 21 มาฆ่าผม ผมคงหาวิธีบอกแบบอื่นแล้วล่ะครับ
อืม มันก็น่าคิดเนอะ
ส่วนตัวพรอมคิดว่า ถ้าพิมเลขไปตรงๆ คนร้ายเค้าต้องรู้และทำลายหลักฐานแน่ๆ
ตามปกติแล้ว เวลาฆ่า ฆาตกรคงจะต้องดูให้แน่ใจว่า คนที่ถูกฆ่านั้นตายจริง หรือหยุดการเคลื่อนไหวทุกอย่าง ไม่งั้นรอดตายไปก็ต้องรู้ตัวคนทำร้ายแน่
เพราะงั้นการที่จะคอยจับตาดูผู้ตายตลอดก่อนตายก็ไม่น่าแปลก จะทำอะไร เขียนอะไรให้เห็นชัดเจนก็คงไม่ได้ เพราะยังไงก็ต้องถูกมองเห็นหมด
การทิ้งไดอิ้งเมสเซจก็น่าจะเป็นางเลือกที่ดี แต่ไดอิ้งเมสเซจนั้น ก็ต้องเป็นรหัสที่ไม่ทำให้คนร้ายฉุกคิด และทำร้ายมันทิ้งจริงๆ
นั่นอาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งของการเขียนเป็นรหัสที่มันซับซ้อน
อีกอย่าง ที่เรามองว่ามันซับซ้อน มันอาจเป็นเพราะเรามองในมุมคนนอก ไม่ได้มองในมุมเจ้าของเมสเซจด้วยมั้งคะ
ถ้าเราคิดว่า มันซับซ้อน คิดอะไรเข้าใจยาก แต่ลองมองอีกมุม นั่นอาจจะเป็นเพียงอย่างเดียวที่เค้าคิดได้
จริงๆแล้ว มันอาจจะเป็นอะไรที่ธรรมดามาก ไม่ได้ซับซ้อนอบ่างที่เราคิดเลย เป็นอะไรที่ธรรมดา เพราะเขาอยู่กับมันตลอด
อย่างเช่นถ้าเป็นนักเคมี อาจจะเขียนให้เป็น ตัวย่อของธาตุในตารางธาตุ ซึ่งเอาไปเทียบกับเลขอะตอมมาเป็นเลขห้อง
ซึ่งตรงนั้น เป็นหน้าที่ของนักสืบอย่างเรา ที่มีหน้าที่หาความหมาย ซึ่งอาจจะดูจากงานอดิเรก และความชอบส่วนตัว
ความเห็นส่วนตัวนะ ไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไร แย้งได้ ไม่ซีเรียสๆ
คืออันนี้ที่พรอม นำมาลง กะจะให้เล่นสนุกกัน และมันค่อนข้างตรงกับบทเรียนด้วย ในเรื่องรหัสลับด้วย
อ่าครับ แต่ผมคิดว่าการทิ้งรหัสง่ายๆ โดยเดิมพันว่าคนอื่นจะมาเห็นก่อนคนร้าย มันคุ้มกว่าการเข้ารหัสยากๆแล้วจะไม่มีใครไขได้นะครับ
แล้วเราต้องคิดสภาพของคนตายด้วยครับ ถ้าคนร้ายอยู่รอจนตายสนิทจริง คนตายจะทิ้งไดอิ้งแมชเซจเป็นข้อความทำไมล่ะครับ ทำไมไม่ทิ้งเป็นท่าทางของตัวเองแทน
การที่ตัดสินใจทิ้งไดอิ้งแมสเซจแปลว่า คนตายคิดรู้ว่า คนร้ายไม่อยู่ในขณะที่กำลังทิ้งข้อความนั้น ดังนั้นเรื่องคนร้ายจะจับตามองตัดทิ้งไปได้เลยครับ
แล้วก็ ควรจะใส่อะไรที่ถึงแม้คนร้ายจะทำลายหลักฐานไปแล้วก็ยังสามารถหาได้ว่าก่อนทำลายเป็นยังไง เช่น เรียงของแล้วเอาเลือดหยดใส่เป็นเครื่องหมายว่าของไหนเคยอยู่ตรงไหน
ซึ่ง การที่ผู้ตายตัดสินใจทิ้งข้อความไว้ในเครื่องคิดเลข หมายความว่า ผู้ตายรู้ว่าคนร้ายจะไม่มีทางพบข้อความนี้ก่อนตำรวจอย่างแน่นอน เพราะเครื่องคิดเลขมันเป็นอะไรที่ลบข้อมูลได้ง่ายมากๆครับ กดปุ่มเดียวก็เร็จแล้ว
ผมเลยมองว่า การที่ผู้ตายเสี่ยงถูกทำลายไดอิ้งแมสเซจขนาดนี้ แต่กลับใช้รหัสที่ "สังเกตได้ง่ายมาก" เพราะหากเดินไปอยู่มุมที่เครื่องคิดเลขกลับหัวก็ไขได้แล้ว
และเป็นรหัสที่ "ใช้ความพยายามในการเข้ารหัสค่อนข้างมาก" คือ ต้องคิดก่อนว่าเครื่องคิดเลขมันแทนตัวอะไรได้บ้างในแนวไหนบ้าง แล้วคนที่มาฆ่าเรามันมีลักษณะอย่างไร(นึกไปถึงอายุเลยน่ะครับแหม่ คนตายนี่รู้เยอะจริงๆ)
แล้วพอตัดสินใจเลือกแนวกลับหัว ต้องใส่เลขย้อนหลังด้วยครับ อย่างจะใส่ ShE21 ต้องใส่ เลขที่หมายความว่า 1 ก่อน แล้ว 2 E h S ตามมา ซึ่งมันดูเหมือนว่าผู้ตายมีเวลาคิดก่อนตายนานมาก
ซึ่งก็วนมาที่เดิมว่า ถ้ามีเวลามากขนาดนั้น ทำไมไม่หารหัสที่ระบุตัวได้ง่ายกว่า แล้วก็เสี่ยงต่อการโดนทำลายน้อยกว่าครับ
แล้วก็ การใส่ไว้ในเครื่องคิดเลขแล้ววางไว้เฉยๆ คงไม่มีใครคิดหรอกครับว่าเป็นไดอิ้งแมสเซจ อาจคิดว่าเป็นการคำนวณอะไรสักอย่างค้างไว้ นอกจากผู้ตายจะทำเครื่องหมายไว้ เช่น กอดเครื่องคิดเลขไว้ พยายามเอื้อมมือหาเครื่องคิดเลข ฯลฯ ซึ่งถ้าคนร้ายมาเจอก่อนก็จะเห็นง่ายอีก กดปุ่มเดียวทุกอย่างก็หายไป
นี่เป็นความเห็นของผมนะครับ ผมรู้สึกว่านี่เป็นรหัสที่ดีทีเดียว แต่เป็นไดอิ้งแมสเซจที่แย่มากครับ เพราะไดอิ้งแมสเซจควรจะไขง่าย ทำลายยาก และที่สำคัญที่สุดคือ ต้องให้คนที่มาพบ รู้ว่านี่คือไดอิ้งแมสเซจ
แค่ความเห็นของนักเรียนคนนึงน่ะครับ ไม่ต้องสนใจมากก็ได้ แหะๆ
อืม มันก็มีหลายวิธีแล้วแต่ใครจะเลือกปฏิบัติ ณ เวลานั้นรึเปล่า "การใส่อะไรที่ถึงแม้คนร้ายจะทำลายหลักฐานไปแล้วก็ยังสามารถหาได้ว่าก่อนทำลายเป็นยังไง เช่น เรียงของแล้วเอาเลือดหยดใส่เป็นเครื่องหมายว่าของไหนเคยอยู่ตรงไหน" อันนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นสารก่อนตายเหมือนกันหรอคะ มันก็น่าจะเป็นอีกวิธีหนึ่งนะ แบบที่ผู้ตายเลือกเขียนชื่อฆาตกรโดยตรงเลยก็มี ก็อย่างที่เคยบอกไปด้วย มันอาจจะไม่ซับซ้อน สำหรับผู้ตาย เพราะเขาอยู่กับมัน ทำงานกับมันมาตลอด หรือมันเป็นอะไรที่ผู้ตายนึกขึ้นได้ในตอนนั้น แต่ที่มันยาก เพราะมองในมุมมองของคนนอก หรือปัญหามันอยู่ที่ ผู้ตายทิ้งไว้ในเครื่องคิดเลขใช่มั้ย ฮะๆ ตัวโจทย์มันคงอ่อน ไม่ละเอียดจริงๆ ขอโทษค่ะ วันหลังจะพยายามหาโจทย์ที่มันครอบคลุม สมเหตุสมผล และรอบคอบมากกว่านี้
ครับ นั่นคือผมยกตัวอย่างไดอิ้งแมสเซจที่มีประสิทธิภาพ เพราะรอยเลือดล้างยาก ถึงล้างแล้วก็มีสารตกค้างให้สำรวจได้
และใช่ครับ มันไม่ซับซ้อนสำหรับผู้ตาย แต่ในกรณีนี้ มันเหมือนกับว่าผู้ตายน่าจะเป็นนักคณิตศาสตร์ หรือนักสร้างปริศนาที่ต้องการโชว์ภูมิตัวเองมากกว่าน่ะครับ เพราะอย่างที่ผมบอกไปว่าขั้นตอนการใส่รหัสมันซับซ้อน มองในแง่ที่ ศ.เป็นคนคิดปริศนานี้เอง(ถ้าเกิดว่าไม่ได้ลอกมาจากไหน) ใช้เวลาคิดนานมั้ยครับ แล้วเวลาเฮือกสุดท้ายก่อนตายมันเพียงพอมั้ยครับ
แ้ล้วถ้าคนฆ่าไม่ได้อายุ 21 แต่เป็นอายุ 24 หรือ 27 อะไรทำนองนั้น วิธีนี้ก็จะใช้ไม่ได้ หรือให้เจาะจง การใช้มุมมองของเครื่องคิดเลขแทบเป็นไปไม่ได้เลย แสดงว่าผู้ตายมีสิทธิ์ที่เป็นไปได้ว่า มีเวลาคิดถึงกระทั่งว่าคนที่มาฆ่าอายุเท่าไหร่? ถ้าเป็นคนห้องข้างๆที่ไม่พอใจกันคิดว่าจะรู้อายุในทันทีด้วยหรอครับ ขนาดอายุพ่อผม ถ้าถามผม ผมยังต้องนึกเลย นานด้วย
แล้วใช่ครับ ที่นักเคมีมีการใช้ตารางธาตุมาร่วมในไดอิ้งแมสเซจ แต่กลับกันครับ ทำไมเขาไม่ใช้สมการปฏิกิริยาในห้องทำงานแทน เพราะตารางธาตุมันเข้าใจง่ายและใช้ความคิดน้อยกว่า ทั้งความคิดของคนที่มาเจอและความคิดของผู้ตายเองด้วย
หรือผมอาจจะดูว่ายากในมุมมองของผมเพราะผมเป็นคนนอก? อันนี้ก็ไม่น่าเกี่ยวนะครับ เพื่อนผมที่ชอบเคมีมาก จนเวลาคิดอะไรแทบจะเป็นภาษาเคมีอยู่แล้ว เวลามันจะตายมันยังบอกว่ามันจะโดดกัดคอคนร้ายเลย--" ดังนั้นแค่คลุกคลีมาตลอดไม่น่าจะเพียงพอที่จะทำให้มันดูง่ายที่จะคิดรหัสอะไรแนวๆนี้ครับ
แล้วก็ สมมติว่านะครับ ถ้าผู้ตายมีเวลาคิดรูปแบบตัวเลขในเครื่องคิดเลขได้จริง แต่ใส่ลงเครื่องคิดเลขตรงๆมันก็จะเด่นไปหน่อยนะครับ อย่างที่ศ.บอกตอนต้นว่า ไม่ต้องการให้คนร้ายเห็นก่อน แต่แบบนี้แค่ฟลุคไปยืนมองในมุมที่ถูกต้องก็เห็นแล้ว แล้วลบง่ายด้วย ถ้าเป็นผม ผมจะเอาเลือดตัวเองเขียนเลข แล้วเอามือไปกำที่เครื่องคิดเลขแทน
อีกอย่างคือ ถ้าผู้ตายคลุกคลีกับ"ตัวเลข" และพวกความลับของตัวเลข ลักษณะ ความหมาย ฯลฯ จริง ก็คงเป็นนักคณิตศาสตร์ แต่นักคณิตศาสตร์ส่วนมากที่ผมรู้จัก(หลายสิบคน) เขามีศักดิ์ศรีบ้าๆอย่างนึงคือ ชอบคิดด้วยดินสอกับกระดาษ
คือ ผมไม่ได้อะไรมากมายหรอกครับ แต่พอเห็นปริศนาที่มีอ้างอิงสถานการณ์ที่อ้างอิงสภาพจริงอะไรแบบนี้ ผมชอบคิดตามน่ะครับ
แต่เป็นปริศนาที่ดีจริงๆครับ ผมนับถือเลย ถ้ามันไม่ใช่ไดอิ้งแมสเซจน่ะนะ
แล้วก็นะครับ การบ้านควรจะเกี่ยวข้องกับบทเรียนหน่อยนะครับ
คนที่เล่นเว็บนี้มีแต่เด็กๆทั้งนั้น คนที่ยังไม่เคยรู้อะไรเลยก็มี เขาเข้ามาหาความรู้ ถ้าเขายังไม่เรียนวิธีการไขรหัสหรือรู้จักรหัสอะไรมาก่อนเลย น่าจะสอนก่อนนะครับ อันนี้แนะนำครับ เดี๋ยวเด็กๆจะหนีจากเว็บนี้ไปหมด ^^
- fathrนักล่าปริศนา
- จำนวนข้อความ : 667
ชื่อเสียง&น้ำใจ : 13
Re: วิทยาการรหัสลับ
Fri Mar 22, 2013 4:04 pm
E.เพศหญิง อายุ 21ปี ห้อง 507
=w=
=w=
- fathrนักล่าปริศนา
- จำนวนข้อความ : 667
ชื่อเสียง&น้ำใจ : 13
Re: วิทยาการรหัสลับ
Fri Mar 22, 2013 4:12 pm
/Charcoal/ พิมพ์ว่า:ipromise พิมพ์ว่า:/Charcoal/ พิมพ์ว่า:ipromise พิมพ์ว่า:/Charcoal/ พิมพ์ว่า:sugar_rune พิมพ์ว่า:ตอบได้แล้ววววว
E.เพศหญิง อายุ 21ปี ห้อง 507
เพราะ กดเลขใส่เครื่องคิดเลขและ กลับหัวอ่านดูสิค่ะ ^^
คงถูกแล้วล่ะครับ แต่คนตายนี่ต้องอัจฉริยะมากเลยนะครับ ที่รู้ว่าจะต้องกดยังไงให้ออกมาเป็นคำนี้อ่า พิมพ์เลขออกมาตรงๆก็ไม่ได้ เหมือนกลัวคนรู้คนร้าย
ถ้าผมเป็นคนตายแล้วมีผู้หญิงอายุ 21 มาฆ่าผม ผมคงหาวิธีบอกแบบอื่นแล้วล่ะครับ
อืม มันก็น่าคิดเนอะ
ส่วนตัวพรอมคิดว่า ถ้าพิมเลขไปตรงๆ คนร้ายเค้าต้องรู้และทำลายหลักฐานแน่ๆ
ตามปกติแล้ว เวลาฆ่า ฆาตกรคงจะต้องดูให้แน่ใจว่า คนที่ถูกฆ่านั้นตายจริง หรือหยุดการเคลื่อนไหวทุกอย่าง ไม่งั้นรอดตายไปก็ต้องรู้ตัวคนทำร้ายแน่
เพราะงั้นการที่จะคอยจับตาดูผู้ตายตลอดก่อนตายก็ไม่น่าแปลก จะทำอะไร เขียนอะไรให้เห็นชัดเจนก็คงไม่ได้ เพราะยังไงก็ต้องถูกมองเห็นหมด
การทิ้งไดอิ้งเมสเซจก็น่าจะเป็นางเลือกที่ดี แต่ไดอิ้งเมสเซจนั้น ก็ต้องเป็นรหัสที่ไม่ทำให้คนร้ายฉุกคิด และทำร้ายมันทิ้งจริงๆ
นั่นอาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งของการเขียนเป็นรหัสที่มันซับซ้อน
อีกอย่าง ที่เรามองว่ามันซับซ้อน มันอาจเป็นเพราะเรามองในมุมคนนอก ไม่ได้มองในมุมเจ้าของเมสเซจด้วยมั้งคะ
ถ้าเราคิดว่า มันซับซ้อน คิดอะไรเข้าใจยาก แต่ลองมองอีกมุม นั่นอาจจะเป็นเพียงอย่างเดียวที่เค้าคิดได้
จริงๆแล้ว มันอาจจะเป็นอะไรที่ธรรมดามาก ไม่ได้ซับซ้อนอบ่างที่เราคิดเลย เป็นอะไรที่ธรรมดา เพราะเขาอยู่กับมันตลอด
อย่างเช่นถ้าเป็นนักเคมี อาจจะเขียนให้เป็น ตัวย่อของธาตุในตารางธาตุ ซึ่งเอาไปเทียบกับเลขอะตอมมาเป็นเลขห้อง
ซึ่งตรงนั้น เป็นหน้าที่ของนักสืบอย่างเรา ที่มีหน้าที่หาความหมาย ซึ่งอาจจะดูจากงานอดิเรก และความชอบส่วนตัว
ความเห็นส่วนตัวนะ ไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไร แย้งได้ ไม่ซีเรียสๆ
คืออันนี้ที่พรอม นำมาลง กะจะให้เล่นสนุกกัน และมันค่อนข้างตรงกับบทเรียนด้วย ในเรื่องรหัสลับด้วย
อ่าครับ แต่ผมคิดว่าการทิ้งรหัสง่ายๆ โดยเดิมพันว่าคนอื่นจะมาเห็นก่อนคนร้าย มันคุ้มกว่าการเข้ารหัสยากๆแล้วจะไม่มีใครไขได้นะครับ
แล้วเราต้องคิดสภาพของคนตายด้วยครับ ถ้าคนร้ายอยู่รอจนตายสนิทจริง คนตายจะทิ้งไดอิ้งแมชเซจเป็นข้อความทำไมล่ะครับ ทำไมไม่ทิ้งเป็นท่าทางของตัวเองแทน
การที่ตัดสินใจทิ้งไดอิ้งแมสเซจแปลว่า คนตายคิดรู้ว่า คนร้ายไม่อยู่ในขณะที่กำลังทิ้งข้อความนั้น ดังนั้นเรื่องคนร้ายจะจับตามองตัดทิ้งไปได้เลยครับ
แล้วก็ ควรจะใส่อะไรที่ถึงแม้คนร้ายจะทำลายหลักฐานไปแล้วก็ยังสามารถหาได้ว่าก่อนทำลายเป็นยังไง เช่น เรียงของแล้วเอาเลือดหยดใส่เป็นเครื่องหมายว่าของไหนเคยอยู่ตรงไหน
ซึ่ง การที่ผู้ตายตัดสินใจทิ้งข้อความไว้ในเครื่องคิดเลข หมายความว่า ผู้ตายรู้ว่าคนร้ายจะไม่มีทางพบข้อความนี้ก่อนตำรวจอย่างแน่นอน เพราะเครื่องคิดเลขมันเป็นอะไรที่ลบข้อมูลได้ง่ายมากๆครับ กดปุ่มเดียวก็เร็จแล้ว
ผมเลยมองว่า การที่ผู้ตายเสี่ยงถูกทำลายไดอิ้งแมสเซจขนาดนี้ แต่กลับใช้รหัสที่ "สังเกตได้ง่ายมาก" เพราะหากเดินไปอยู่มุมที่เครื่องคิดเลขกลับหัวก็ไขได้แล้ว
และเป็นรหัสที่ "ใช้ความพยายามในการเข้ารหัสค่อนข้างมาก" คือ ต้องคิดก่อนว่าเครื่องคิดเลขมันแทนตัวอะไรได้บ้างในแนวไหนบ้าง แล้วคนที่มาฆ่าเรามันมีลักษณะอย่างไร(นึกไปถึงอายุเลยน่ะครับแหม่ คนตายนี่รู้เยอะจริงๆ)
แล้วพอตัดสินใจเลือกแนวกลับหัว ต้องใส่เลขย้อนหลังด้วยครับ อย่างจะใส่ ShE21 ต้องใส่ เลขที่หมายความว่า 1 ก่อน แล้ว 2 E h S ตามมา ซึ่งมันดูเหมือนว่าผู้ตายมีเวลาคิดก่อนตายนานมาก
ซึ่งก็วนมาที่เดิมว่า ถ้ามีเวลามากขนาดนั้น ทำไมไม่หารหัสที่ระบุตัวได้ง่ายกว่า แล้วก็เสี่ยงต่อการโดนทำลายน้อยกว่าครับ
แล้วก็ การใส่ไว้ในเครื่องคิดเลขแล้ววางไว้เฉยๆ คงไม่มีใครคิดหรอกครับว่าเป็นไดอิ้งแมสเซจ อาจคิดว่าเป็นการคำนวณอะไรสักอย่างค้างไว้ นอกจากผู้ตายจะทำเครื่องหมายไว้ เช่น กอดเครื่องคิดเลขไว้ พยายามเอื้อมมือหาเครื่องคิดเลข ฯลฯ ซึ่งถ้าคนร้ายมาเจอก่อนก็จะเห็นง่ายอีก กดปุ่มเดียวทุกอย่างก็หายไป
นี่เป็นความเห็นของผมนะครับ ผมรู้สึกว่านี่เป็นรหัสที่ดีทีเดียว แต่เป็นไดอิ้งแมสเซจที่แย่มากครับ เพราะไดอิ้งแมสเซจควรจะไขง่าย ทำลายยาก และที่สำคัญที่สุดคือ ต้องให้คนที่มาพบ รู้ว่านี่คือไดอิ้งแมสเซจ
แค่ความเห็นของนักเรียนคนนึงน่ะครับ ไม่ต้องสนใจมากก็ได้ แหะๆ
อืม มันก็มีหลายวิธีแล้วแต่ใครจะเลือกปฏิบัติ ณ เวลานั้นรึเปล่า "การใส่อะไรที่ถึงแม้คนร้ายจะทำลายหลักฐานไปแล้วก็ยังสามารถหาได้ว่าก่อนทำลายเป็นยังไง เช่น เรียงของแล้วเอาเลือดหยดใส่เป็นเครื่องหมายว่าของไหนเคยอยู่ตรงไหน" อันนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นสารก่อนตายเหมือนกันหรอคะ มันก็น่าจะเป็นอีกวิธีหนึ่งนะ แบบที่ผู้ตายเลือกเขียนชื่อฆาตกรโดยตรงเลยก็มี ก็อย่างที่เคยบอกไปด้วย มันอาจจะไม่ซับซ้อน สำหรับผู้ตาย เพราะเขาอยู่กับมัน ทำงานกับมันมาตลอด หรือมันเป็นอะไรที่ผู้ตายนึกขึ้นได้ในตอนนั้น แต่ที่มันยาก เพราะมองในมุมมองของคนนอก หรือปัญหามันอยู่ที่ ผู้ตายทิ้งไว้ในเครื่องคิดเลขใช่มั้ย ฮะๆ ตัวโจทย์มันคงอ่อน ไม่ละเอียดจริงๆ ขอโทษค่ะ วันหลังจะพยายามหาโจทย์ที่มันครอบคลุม สมเหตุสมผล และรอบคอบมากกว่านี้
ครับ นั่นคือผมยกตัวอย่างไดอิ้งแมสเซจที่มีประสิทธิภาพ เพราะรอยเลือดล้างยาก ถึงล้างแล้วก็มีสารตกค้างให้สำรวจได้
และใช่ครับ มันไม่ซับซ้อนสำหรับผู้ตาย แต่ในกรณีนี้ มันเหมือนกับว่าผู้ตายน่าจะเป็นนักคณิตศาสตร์ หรือนักสร้างปริศนาที่ต้องการโชว์ภูมิตัวเองมากกว่าน่ะครับ เพราะอย่างที่ผมบอกไปว่าขั้นตอนการใส่รหัสมันซับซ้อน มองในแง่ที่ ศ.เป็นคนคิดปริศนานี้เอง(ถ้าเกิดว่าไม่ได้ลอกมาจากไหน) ใช้เวลาคิดนานมั้ยครับ แล้วเวลาเฮือกสุดท้ายก่อนตายมันเพียงพอมั้ยครับ
แ้ล้วถ้าคนฆ่าไม่ได้อายุ 21 แต่เป็นอายุ 24 หรือ 27 อะไรทำนองนั้น วิธีนี้ก็จะใช้ไม่ได้ หรือให้เจาะจง การใช้มุมมองของเครื่องคิดเลขแทบเป็นไปไม่ได้เลย แสดงว่าผู้ตายมีสิทธิ์ที่เป็นไปได้ว่า มีเวลาคิดถึงกระทั่งว่าคนที่มาฆ่าอายุเท่าไหร่? ถ้าเป็นคนห้องข้างๆที่ไม่พอใจกันคิดว่าจะรู้อายุในทันทีด้วยหรอครับ ขนาดอายุพ่อผม ถ้าถามผม ผมยังต้องนึกเลย นานด้วย
แล้วใช่ครับ ที่นักเคมีมีการใช้ตารางธาตุมาร่วมในไดอิ้งแมสเซจ แต่กลับกันครับ ทำไมเขาไม่ใช้สมการปฏิกิริยาในห้องทำงานแทน เพราะตารางธาตุมันเข้าใจง่ายและใช้ความคิดน้อยกว่า ทั้งความคิดของคนที่มาเจอและความคิดของผู้ตายเองด้วย
หรือผมอาจจะดูว่ายากในมุมมองของผมเพราะผมเป็นคนนอก? อันนี้ก็ไม่น่าเกี่ยวนะครับ เพื่อนผมที่ชอบเคมีมาก จนเวลาคิดอะไรแทบจะเป็นภาษาเคมีอยู่แล้ว เวลามันจะตายมันยังบอกว่ามันจะโดดกัดคอคนร้ายเลย--" ดังนั้นแค่คลุกคลีมาตลอดไม่น่าจะเพียงพอที่จะทำให้มันดูง่ายที่จะคิดรหัสอะไรแนวๆนี้ครับ
แล้วก็ สมมติว่านะครับ ถ้าผู้ตายมีเวลาคิดรูปแบบตัวเลขในเครื่องคิดเลขได้จริง แต่ใส่ลงเครื่องคิดเลขตรงๆมันก็จะเด่นไปหน่อยนะครับ อย่างที่ศ.บอกตอนต้นว่า ไม่ต้องการให้คนร้ายเห็นก่อน แต่แบบนี้แค่ฟลุคไปยืนมองในมุมที่ถูกต้องก็เห็นแล้ว แล้วลบง่ายด้วย ถ้าเป็นผม ผมจะเอาเลือดตัวเองเขียนเลข แล้วเอามือไปกำที่เครื่องคิดเลขแทน
อีกอย่างคือ ถ้าผู้ตายคลุกคลีกับ"ตัวเลข" และพวกความลับของตัวเลข ลักษณะ ความหมาย ฯลฯ จริง ก็คงเป็นนักคณิตศาสตร์ แต่นักคณิตศาสตร์ส่วนมากที่ผมรู้จัก(หลายสิบคน) เขามีศักดิ์ศรีบ้าๆอย่างนึงคือ ชอบคิดด้วยดินสอกับกระดาษ
คือ ผมไม่ได้อะไรมากมายหรอกครับ แต่พอเห็นปริศนาที่มีอ้างอิงสถานการณ์ที่อ้างอิงสภาพจริงอะไรแบบนี้ ผมชอบคิดตามน่ะครับ
แต่เป็นปริศนาที่ดีจริงๆครับ ผมนับถือเลย ถ้ามันไม่ใช่ไดอิ้งแมสเซจน่ะนะ
แล้วก็นะครับ การบ้านควรจะเกี่ยวข้องกับบทเรียนหน่อยนะครับ
คนที่เล่นเว็บนี้มีแต่เด็กๆทั้งนั้น คนที่ยังไม่เคยรู้อะไรเลยก็มี เขาเข้ามาหาความรู้ ถ้าเขายังไม่เรียนวิธีการไขรหัสหรือรู้จักรหัสอะไรมาก่อนเลย น่าจะสอนก่อนนะครับ อันนี้แนะนำครับ เดี๋ยวเด็กๆจะหนีจากเว็บนี้ไปหมด ^^
เฮียนัทอยู่มานานแล้ว.... น่ากลัวจุง
เกี่ยวไหมเนี้ย
จาบอกว่าปริศนากับไดอิ้งเมสเซจต่างกันเยอะนะครับ =w= ค่อยๆปรับไปนะครับบ
- ผู้มาเยือนผู้มาเยือน
Re: วิทยาการรหัสลับ
Fri Mar 22, 2013 4:23 pm
/Charcoal/ พิมพ์ว่า:ipromise พิมพ์ว่า:/Charcoal/ พิมพ์ว่า:ipromise พิมพ์ว่า:/Charcoal/ พิมพ์ว่า:sugar_rune พิมพ์ว่า:ตอบได้แล้ววววว
E.เพศหญิง อายุ 21ปี ห้อง 507
เพราะ กดเลขใส่เครื่องคิดเลขและ กลับหัวอ่านดูสิค่ะ ^^
คงถูกแล้วล่ะครับ แต่คนตายนี่ต้องอัจฉริยะมากเลยนะครับ ที่รู้ว่าจะต้องกดยังไงให้ออกมาเป็นคำนี้อ่า พิมพ์เลขออกมาตรงๆก็ไม่ได้ เหมือนกลัวคนรู้คนร้าย
ถ้าผมเป็นคนตายแล้วมีผู้หญิงอายุ 21 มาฆ่าผม ผมคงหาวิธีบอกแบบอื่นแล้วล่ะครับ
อืม มันก็น่าคิดเนอะ
ส่วนตัวพรอมคิดว่า ถ้าพิมเลขไปตรงๆ คนร้ายเค้าต้องรู้และทำลายหลักฐานแน่ๆ
ตามปกติแล้ว เวลาฆ่า ฆาตกรคงจะต้องดูให้แน่ใจว่า คนที่ถูกฆ่านั้นตายจริง หรือหยุดการเคลื่อนไหวทุกอย่าง ไม่งั้นรอดตายไปก็ต้องรู้ตัวคนทำร้ายแน่
เพราะงั้นการที่จะคอยจับตาดูผู้ตายตลอดก่อนตายก็ไม่น่าแปลก จะทำอะไร เขียนอะไรให้เห็นชัดเจนก็คงไม่ได้ เพราะยังไงก็ต้องถูกมองเห็นหมด
การทิ้งไดอิ้งเมสเซจก็น่าจะเป็นางเลือกที่ดี แต่ไดอิ้งเมสเซจนั้น ก็ต้องเป็นรหัสที่ไม่ทำให้คนร้ายฉุกคิด และทำร้ายมันทิ้งจริงๆ
นั่นอาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งของการเขียนเป็นรหัสที่มันซับซ้อน
อีกอย่าง ที่เรามองว่ามันซับซ้อน มันอาจเป็นเพราะเรามองในมุมคนนอก ไม่ได้มองในมุมเจ้าของเมสเซจด้วยมั้งคะ
ถ้าเราคิดว่า มันซับซ้อน คิดอะไรเข้าใจยาก แต่ลองมองอีกมุม นั่นอาจจะเป็นเพียงอย่างเดียวที่เค้าคิดได้
จริงๆแล้ว มันอาจจะเป็นอะไรที่ธรรมดามาก ไม่ได้ซับซ้อนอบ่างที่เราคิดเลย เป็นอะไรที่ธรรมดา เพราะเขาอยู่กับมันตลอด
อย่างเช่นถ้าเป็นนักเคมี อาจจะเขียนให้เป็น ตัวย่อของธาตุในตารางธาตุ ซึ่งเอาไปเทียบกับเลขอะตอมมาเป็นเลขห้อง
ซึ่งตรงนั้น เป็นหน้าที่ของนักสืบอย่างเรา ที่มีหน้าที่หาความหมาย ซึ่งอาจจะดูจากงานอดิเรก และความชอบส่วนตัว
ความเห็นส่วนตัวนะ ไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไร แย้งได้ ไม่ซีเรียสๆ
คืออันนี้ที่พรอม นำมาลง กะจะให้เล่นสนุกกัน และมันค่อนข้างตรงกับบทเรียนด้วย ในเรื่องรหัสลับด้วย
อ่าครับ แต่ผมคิดว่าการทิ้งรหัสง่ายๆ โดยเดิมพันว่าคนอื่นจะมาเห็นก่อนคนร้าย มันคุ้มกว่าการเข้ารหัสยากๆแล้วจะไม่มีใครไขได้นะครับ
แล้วเราต้องคิดสภาพของคนตายด้วยครับ ถ้าคนร้ายอยู่รอจนตายสนิทจริง คนตายจะทิ้งไดอิ้งแมชเซจเป็นข้อความทำไมล่ะครับ ทำไมไม่ทิ้งเป็นท่าทางของตัวเองแทน
การที่ตัดสินใจทิ้งไดอิ้งแมสเซจแปลว่า คนตายคิดรู้ว่า คนร้ายไม่อยู่ในขณะที่กำลังทิ้งข้อความนั้น ดังนั้นเรื่องคนร้ายจะจับตามองตัดทิ้งไปได้เลยครับ
แล้วก็ ควรจะใส่อะไรที่ถึงแม้คนร้ายจะทำลายหลักฐานไปแล้วก็ยังสามารถหาได้ว่าก่อนทำลายเป็นยังไง เช่น เรียงของแล้วเอาเลือดหยดใส่เป็นเครื่องหมายว่าของไหนเคยอยู่ตรงไหน
ซึ่ง การที่ผู้ตายตัดสินใจทิ้งข้อความไว้ในเครื่องคิดเลข หมายความว่า ผู้ตายรู้ว่าคนร้ายจะไม่มีทางพบข้อความนี้ก่อนตำรวจอย่างแน่นอน เพราะเครื่องคิดเลขมันเป็นอะไรที่ลบข้อมูลได้ง่ายมากๆครับ กดปุ่มเดียวก็เร็จแล้ว
ผมเลยมองว่า การที่ผู้ตายเสี่ยงถูกทำลายไดอิ้งแมสเซจขนาดนี้ แต่กลับใช้รหัสที่ "สังเกตได้ง่ายมาก" เพราะหากเดินไปอยู่มุมที่เครื่องคิดเลขกลับหัวก็ไขได้แล้ว
และเป็นรหัสที่ "ใช้ความพยายามในการเข้ารหัสค่อนข้างมาก" คือ ต้องคิดก่อนว่าเครื่องคิดเลขมันแทนตัวอะไรได้บ้างในแนวไหนบ้าง แล้วคนที่มาฆ่าเรามันมีลักษณะอย่างไร(นึกไปถึงอายุเลยน่ะครับแหม่ คนตายนี่รู้เยอะจริงๆ)
แล้วพอตัดสินใจเลือกแนวกลับหัว ต้องใส่เลขย้อนหลังด้วยครับ อย่างจะใส่ ShE21 ต้องใส่ เลขที่หมายความว่า 1 ก่อน แล้ว 2 E h S ตามมา ซึ่งมันดูเหมือนว่าผู้ตายมีเวลาคิดก่อนตายนานมาก
ซึ่งก็วนมาที่เดิมว่า ถ้ามีเวลามากขนาดนั้น ทำไมไม่หารหัสที่ระบุตัวได้ง่ายกว่า แล้วก็เสี่ยงต่อการโดนทำลายน้อยกว่าครับ
แล้วก็ การใส่ไว้ในเครื่องคิดเลขแล้ววางไว้เฉยๆ คงไม่มีใครคิดหรอกครับว่าเป็นไดอิ้งแมสเซจ อาจคิดว่าเป็นการคำนวณอะไรสักอย่างค้างไว้ นอกจากผู้ตายจะทำเครื่องหมายไว้ เช่น กอดเครื่องคิดเลขไว้ พยายามเอื้อมมือหาเครื่องคิดเลข ฯลฯ ซึ่งถ้าคนร้ายมาเจอก่อนก็จะเห็นง่ายอีก กดปุ่มเดียวทุกอย่างก็หายไป
นี่เป็นความเห็นของผมนะครับ ผมรู้สึกว่านี่เป็นรหัสที่ดีทีเดียว แต่เป็นไดอิ้งแมสเซจที่แย่มากครับ เพราะไดอิ้งแมสเซจควรจะไขง่าย ทำลายยาก และที่สำคัญที่สุดคือ ต้องให้คนที่มาพบ รู้ว่านี่คือไดอิ้งแมสเซจ
แค่ความเห็นของนักเรียนคนนึงน่ะครับ ไม่ต้องสนใจมากก็ได้ แหะๆ
อืม มันก็มีหลายวิธีแล้วแต่ใครจะเลือกปฏิบัติ ณ เวลานั้นรึเปล่า "การใส่อะไรที่ถึงแม้คนร้ายจะทำลายหลักฐานไปแล้วก็ยังสามารถหาได้ว่าก่อนทำลายเป็นยังไง เช่น เรียงของแล้วเอาเลือดหยดใส่เป็นเครื่องหมายว่าของไหนเคยอยู่ตรงไหน" อันนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นสารก่อนตายเหมือนกันหรอคะ มันก็น่าจะเป็นอีกวิธีหนึ่งนะ แบบที่ผู้ตายเลือกเขียนชื่อฆาตกรโดยตรงเลยก็มี ก็อย่างที่เคยบอกไปด้วย มันอาจจะไม่ซับซ้อน สำหรับผู้ตาย เพราะเขาอยู่กับมัน ทำงานกับมันมาตลอด หรือมันเป็นอะไรที่ผู้ตายนึกขึ้นได้ในตอนนั้น แต่ที่มันยาก เพราะมองในมุมมองของคนนอก หรือปัญหามันอยู่ที่ ผู้ตายทิ้งไว้ในเครื่องคิดเลขใช่มั้ย ฮะๆ ตัวโจทย์มันคงอ่อน ไม่ละเอียดจริงๆ ขอโทษค่ะ วันหลังจะพยายามหาโจทย์ที่มันครอบคลุม สมเหตุสมผล และรอบคอบมากกว่านี้
ครับ นั่นคือผมยกตัวอย่างไดอิ้งแมสเซจที่มีประสิทธิภาพ เพราะรอยเลือดล้างยาก ถึงล้างแล้วก็มีสารตกค้างให้สำรวจได้
และใช่ครับ มันไม่ซับซ้อนสำหรับผู้ตาย แต่ในกรณีนี้ มันเหมือนกับว่าผู้ตายน่าจะเป็นนักคณิตศาสตร์ หรือนักสร้างปริศนาที่ต้องการโชว์ภูมิตัวเองมากกว่าน่ะครับ เพราะอย่างที่ผมบอกไปว่าขั้นตอนการใส่รหัสมันซับซ้อน มองในแง่ที่ ศ.เป็นคนคิดปริศนานี้เอง(ถ้าเกิดว่าไม่ได้ลอกมาจากไหน) ใช้เวลาคิดนานมั้ยครับ แล้วเวลาเฮือกสุดท้ายก่อนตายมันเพียงพอมั้ยครับ
แ้ล้วถ้าคนฆ่าไม่ได้อายุ 21 แต่เป็นอายุ 24 หรือ 27 อะไรทำนองนั้น วิธีนี้ก็จะใช้ไม่ได้ หรือให้เจาะจง การใช้มุมมองของเครื่องคิดเลขแทบเป็นไปไม่ได้เลย แสดงว่าผู้ตายมีสิทธิ์ที่เป็นไปได้ว่า มีเวลาคิดถึงกระทั่งว่าคนที่มาฆ่าอายุเท่าไหร่? ถ้าเป็นคนห้องข้างๆที่ไม่พอใจกันคิดว่าจะรู้อายุในทันทีด้วยหรอครับ ขนาดอายุพ่อผม ถ้าถามผม ผมยังต้องนึกเลย นานด้วย
แล้วใช่ครับ ที่นักเคมีมีการใช้ตารางธาตุมาร่วมในไดอิ้งแมสเซจ แต่กลับกันครับ ทำไมเขาไม่ใช้สมการปฏิกิริยาในห้องทำงานแทน เพราะตารางธาตุมันเข้าใจง่ายและใช้ความคิดน้อยกว่า ทั้งความคิดของคนที่มาเจอและความคิดของผู้ตายเองด้วย
หรือผมอาจจะดูว่ายากในมุมมองของผมเพราะผมเป็นคนนอก? อันนี้ก็ไม่น่าเกี่ยวนะครับ เพื่อนผมที่ชอบเคมีมาก จนเวลาคิดอะไรแทบจะเป็นภาษาเคมีอยู่แล้ว เวลามันจะตายมันยังบอกว่ามันจะโดดกัดคอคนร้ายเลย--" ดังนั้นแค่คลุกคลีมาตลอดไม่น่าจะเพียงพอที่จะทำให้มันดูง่ายที่จะคิดรหัสอะไรแนวๆนี้ครับ
แล้วก็ สมมติว่านะครับ ถ้าผู้ตายมีเวลาคิดรูปแบบตัวเลขในเครื่องคิดเลขได้จริง แต่ใส่ลงเครื่องคิดเลขตรงๆมันก็จะเด่นไปหน่อยนะครับ อย่างที่ศ.บอกตอนต้นว่า ไม่ต้องการให้คนร้ายเห็นก่อน แต่แบบนี้แค่ฟลุคไปยืนมองในมุมที่ถูกต้องก็เห็นแล้ว แล้วลบง่ายด้วย ถ้าเป็นผม ผมจะเอาเลือดตัวเองเขียนเลข แล้วเอามือไปกำที่เครื่องคิดเลขแทน
อีกอย่างคือ ถ้าผู้ตายคลุกคลีกับ"ตัวเลข" และพวกความลับของตัวเลข ลักษณะ ความหมาย ฯลฯ จริง ก็คงเป็นนักคณิตศาสตร์ แต่นักคณิตศาสตร์ส่วนมากที่ผมรู้จัก(หลายสิบคน) เขามีศักดิ์ศรีบ้าๆอย่างนึงคือ ชอบคิดด้วยดินสอกับกระดาษ
คือ ผมไม่ได้อะไรมากมายหรอกครับ แต่พอเห็นปริศนาที่มีอ้างอิงสถานการณ์ที่อ้างอิงสภาพจริงอะไรแบบนี้ ผมชอบคิดตามน่ะครับ
แต่เป็นปริศนาที่ดีจริงๆครับ ผมนับถือเลย ถ้ามันไม่ใช่ไดอิ้งแมสเซจน่ะนะ
แล้วก็นะครับ การบ้านควรจะเกี่ยวข้องกับบทเรียนหน่อยนะครับ
คนที่เล่นเว็บนี้มีแต่เด็กๆทั้งนั้น คนที่ยังไม่เคยรู้อะไรเลยก็มี เขาเข้ามาหาความรู้ ถ้าเขายังไม่เรียนวิธีการไขรหัสหรือรู้จักรหัสอะไรมาก่อนเลย น่าจะสอนก่อนนะครับ อันนี้แนะนำครับ เดี๋ยวเด็กๆจะหนีจากเว็บนี้ไปหมด ^^
โอเคค่ะ ขอโทษนะ เพิ่งมาใหม่ ยังไม่ค่อยรู้อะไร แค่คิดว่าให้เด็กเล่นสนุกๆ แชร์ความคิดในนี้ ให้คุยๆทำความรู้จักกันไปก่อนในบทเรียนแรก
เดี๋ยวจะค่อยๆทำความเข้าใจ และแก้ไขให้ตรงจุดค่ะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะ
- คิรัวร์นักล่าปริศนา
- จำนวนข้อความ : 807
ชื่อเสียง&น้ำใจ : 59
วันเกิด : 14/01/1992
งานอดิเรก : เล่นดนตรี อ่านหนังสือ เล่นคอม เล่นกีฬา
Re: วิทยาการรหัสลับ
Tue Mar 26, 2013 11:29 pm
รายงานตัวจร้า^^
- kumisayaนักท่องเที่ยวสุดขอบฟ้า
- จำนวนข้อความ : 271
ชื่อเสียง&น้ำใจ : 18
วันเกิด : 12/02/1995
งานอดิเรก : stalker
Re: วิทยาการรหัสลับ
Thu Mar 28, 2013 5:55 pm
รายงานตัวเจ้าค่ะ
น่าจะเป็น C.เพศหญิง อายุ 23ปี ห้อง 504 นะเจ้าคะ
เพราะมีเลขครบเลย 2345
ส่วนตัว C ก็เป็นเส้นเดี่ยวๆ คล้ายเลข 1 เจ้าค่ะ
น่าจะเป็น C.เพศหญิง อายุ 23ปี ห้อง 504 นะเจ้าคะ
เพราะมีเลขครบเลย 2345
ส่วนตัว C ก็เป็นเส้นเดี่ยวๆ คล้ายเลข 1 เจ้าค่ะ
- ผู้มาเยือนผู้มาเยือน
Re: วิทยาการรหัสลับ
Sat Apr 06, 2013 2:30 pm
รับทราบค่ะ
C.เพศหญิง อายุ 23ปี ห้อง 504
น่าจะเป็น 12345 สลับกันก็ 54321 เอามาแยกกันก็ 543-21 เริ่มที่ 543 ก่อน ก็คือ ตัด 3 ออก แล้วเติม 0 ข้างหน้าเลข 4 เหตุผลที่เติม 0 เพราะเครื่องคิดเลขถ้าสงเกตุดูมันจะเป็นเลข 0 ลางๆอยู่ ส่วน 21 ตัดเลข 1 ออกแล้วเติม 3 ลงไปก็จะเป็น 23 ส่วนเลข 1 ก็น่าจะเป็นเพศมั้งค่ะ
-------------------------------------------------จะถูกรึเปล่าน๊า ถ้าคิดเยอะไปก็ขอโทษด้วยล่ะกัน------------------------------------------------
C.เพศหญิง อายุ 23ปี ห้อง 504
น่าจะเป็น 12345 สลับกันก็ 54321 เอามาแยกกันก็ 543-21 เริ่มที่ 543 ก่อน ก็คือ ตัด 3 ออก แล้วเติม 0 ข้างหน้าเลข 4 เหตุผลที่เติม 0 เพราะเครื่องคิดเลขถ้าสงเกตุดูมันจะเป็นเลข 0 ลางๆอยู่ ส่วน 21 ตัดเลข 1 ออกแล้วเติม 3 ลงไปก็จะเป็น 23 ส่วนเลข 1 ก็น่าจะเป็นเพศมั้งค่ะ
-------------------------------------------------จะถูกรึเปล่าน๊า ถ้าคิดเยอะไปก็ขอโทษด้วยล่ะกัน------------------------------------------------
- V.I. Hikariผู้ชนะเกมสิบทิศ
- จำนวนข้อความ : 1233
ชื่อเสียง&น้ำใจ : 11
วันเกิด : 16/04/1994
Re: วิทยาการรหัสลับ
Fri Apr 26, 2013 5:05 am
E.เพศหญิง อายุ 21ปี ห้อง 507
จริงๆแล้ว ผู้ตายเป็น stalker แล้วคนร้ายเกิดกลัว เลยชิ่งฆ่าซะก่อนใช่ป่ะ -0-
จริงๆแล้ว ผู้ตายเป็น stalker แล้วคนร้ายเกิดกลัว เลยชิ่งฆ่าซะก่อนใช่ป่ะ -0-
- ผู้มาเยือนผู้มาเยือน
Re: วิทยาการรหัสลับ
Fri Apr 26, 2013 8:35 am
รายงานตัวค่ะ
ตอบ C.เพศหญิง อายุ 23ปี ห้อง 504 เพราะถ้าลองเอามาเรียงดูจะได้เป็น 02345 เพราะแบบนี้เลยคิดว่าCคนร้าย
ตอบ C.เพศหญิง อายุ 23ปี ห้อง 504 เพราะถ้าลองเอามาเรียงดูจะได้เป็น 02345 เพราะแบบนี้เลยคิดว่าCคนร้าย
- ผู้มาเยือนผู้มาเยือน
Re: วิทยาการรหัสลับ
Fri May 10, 2013 9:09 am
E.เพศหญิง อายุ 21ปี ห้อง 507
ลองกลับหัวดู
ลองกลับหัวดู
- tomtamtนักเดินทางแห่งสายลม
- จำนวนข้อความ : 147
ชื่อเสียง&น้ำใจ : 0
วันเกิด : 23/08/1998
งานอดิเรก : ^^
Re: วิทยาการรหัสลับ
Tue Jun 04, 2013 7:26 pm
คำตอบคือ ข้อ E.ค่ะ เพราะว่า ถ้าอ่านกลับด้าน เลข 345 ในแบบเครื่องคิดเลขจะอ่านได้เป็นคำว่า "She" ที่แปลว่าหล่อน หรือหมายถึงเพศหญิงนั่นเอง ส่วน เลข 12 นั้น ถ้ามองกลับด้านจะกลายเป็น 21 น่าจะหมายถึงอายุนะคะ ถ้าเอาคำตอบมารวมกันก็ได้ตรงกับข้อ E.พอดีค่ะ
- ผู้มาเยือนผู้มาเยือน
Re: วิทยาการรหัสลับ
Tue Oct 07, 2014 7:04 pm
E.เพราะ ตัวเลขของเครื่องคิดเลข เอามากลับหัวดู จะมองเห็นเป็น she21 คือ เธอ 21 คืออายุครับ
หน้า 2 จาก 2 • 1, 2
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ